พ่อเสียชีวิต ทิ้งมรดกให้ 14 ล้าน แต่ลูกชายไม่ยอมรับ จนแม่พูดออกมาหนึ่งประโยค ลูกถึงได้ปฏิเสธไม่ออก

วันที่ 2 กรกฎาคม 2568 เว็บไซต์ Soha เผยเรื่องราวของชายรายหนึ่งในเวียดนาม เขาเผยว่าตอนที่เขาอายุ 8 ขวบ เขามีภาพที่จำได้ชัดเจนคือ แม่นั่งร้องไห้จนตาบวมแดงอยู่ที่หน้าประตู ในขณะที่พ่อก็เก็บของออกจากบ้าน ทิ้งให้เขาและแม่อยู่กันตามลำพัง หลังจากนั้นเขาก็ได้ยินคนพูดกันว่า พ่อไปอยู่กับผู้หญิงคนใหม่ที่รวยและสวยกว่าแม่ของเขา ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่ามันจริงหรือไม่ แต่สิ่งเดียวที่เขาเห็นในตอนนั้นคือ แม่ทำหน้าที่เป็นทั้งพ่อและแม่ รับภาระเลี้ยงเขาแต่เพียงผู้เดียว
ชายหนุ่มเผยว่า ตอนเด็ก ๆ ช่วงหนึ่งเขาเคยมีความหวังว่าพ่อจะกลับมาหาเขา พาเขาไปเล่นฟุตบอล หรือมาช่วยซ่อมจักรยานคันเก่า แต่ความหวังนั้นก็ไม่เคยเกิดขึ้นจริง และความผูกพันระหว่างเขากับพ่อก็ค่อย ๆ เลือนหายไปตามเวลา จนในที่สุดความคิดถึงและโหยหาก็เปลี่ยนกลายเป็นความโกรธและเจ็บปวด
"หากมีใครถามถึงพ่อของฉัน ฉันคงตอบได้สั้น ๆ ว่า เขาตายไปแล้ว !"
หลังจากเวลาผ่านไปนานเกือบ 20 ปี จนกระทั่งเขาอายุ 27 ปี อยู่ ๆ วันหนึ่งพ่อของเขาก็กลับมาอย่างเงียบ ๆ นั่งรออยู่หน้าประตู เขาจำได้ในทันทีแม้ว่าพ่อจะใบหน้าแก่ขึ้น มีผมหงอกมากขึ้น และแววตาของพ่อดูเสียใจ แต่เขาไม่ได้รู้สึกอะไร
พ่อบอกกับเขาว่า ต้องการกลับมาหาครอบครัว อยากชดเชยที่ทิ้งเขาไป ซึ่งทำให้เขาถึงกับหัวเราะออกมา และบอกความรู้สึกออกไปตรง ๆ ว่า "ฉันไม่ต้องการพ่อที่โผล่มาตอนที่ผมหงอกและสุขภาพไม่ดี" เมื่อได้ยินเช่นนั้นพ่อของเขาก็ไม่พูดอะไร เพียงแค่พยักหน้าตอบรับ โดยก่อนที่จะจากไปเขาได้ฝากกระดาษไว้แผ่นหนึ่ง
ในกระดาษแผ่นนั้น ไม่ใช่จดหมายที่เขียนขอโทษด้วยลายมือหรืออะไรทำนองนั้น แต่เป็นผลการตรวจร่างกายที่ระบุว่า พ่อของเขาเป็นมะเร็งตับในระยะสุดท้าย ซึ่งในขณะนั้นชายหนุ่มคิดว่า พ่อต้องการใช้ผลการตรวจนี้เป็นข้ออ้าง เพื่อที่เขาจะได้รู้สึกเห็นใจและให้อภัยเขา แต่ในความเป็นจริงดูเหมือนว่าจะไม่ง่ายเช่นนั้น
หลังจากวันนั้น ชายหนุ่มไปเยี่ยมพ่อของเขาที่โรงพยาบาลเพียงครั้งเดียว จากนั้นประมาณหนึ่งเดือนพ่อของเขาก็เสียชีวิต ผู้หญิงที่พ่อของเขาเลือกไปอยู่ด้วย ไม่มาแม้กระทั่งงานศพ มีเพียงแม่และลุงของเขาจัดพิธีให้
หลังจากงานศพผ่านไป 2 วัน มีทนายความมาที่บ้านเพื่อประกาศพินัยกรรมที่พ่อของเขาทิ้งไว้ให้ โดยระบุว่า ต้องการมอบทรัพย์สินทั้งหมดให้กับเขา ได้แก่ บ้านหลังใหญ่มูลค่า 8,000 ล้านดอง และเงินออม 4,000 ล้านดอง รวมทั้งหมดประมาณ 12,000 ล้านดอง (ราว 14.8 ล้านบาท)
ชายหนุ่มทั้งตกใจและไม่คาดคิด แต่สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกซึ้งใจและไม่คิดที่จะยอมรับมันด้วย "เด็ก ๆ พ่อไม่เคยให้แม้แต่เงินค่าขนม แต่ตอนนี้ที่เขาจากไป กลับมาทิ้งเงินไว้ให้เป็นหมื่นล้านดอง มันไม่ได้มีค่าอะไรสำหรับฉันเลย"
อย่างไรก็ตาม แม่ของเขาที่เข้าใจความรู้สึกของลูกชายเป็นอย่างดี ได้พูดขึ้นมาประโยคหนึ่งว่า "ลูกอาจไม่ต้องการความรักจากพ่อ แต่นั่นคือหนี้ที่พ่อต้องจ่ายให้ ลูกเป็นลูกคนเดียวของพ่อ ยอมรับมันเสีย"
เมื่อชายหนุ่มได้ยินแม่พูดเช่นนั้น เขาก็ปฏิเสธไม่ได้และตัดสินใจยอมรับในที่สุด โดยเชื่อว่าเป็นการให้อภัยและปลดปล่อยทุกสิ่ง แต่แม้จะเป็นเช่นนั้น จนถึงตอนนี้ ทุกครั้งที่นึกถึงพ่อ เขาก็ยังตอบไม่ได้ว่ายังโกรธพ่ออยู่ไหม ถ้าพ่อยังอยู่ ชีวิตเขาจะเปลี่ยนไปไหม หรือถ้าในวันนั้นพ่อเลือกเขาแทนผู้หญิงคนนั้น วันนี้มันจะเป็นอย่างไร..