หญิงคันขา 2 เดือน ทนไม่ไหวไปหาหมอ ผลกลายเป็นมะเร็งตับ เตือน 4 อาการผิดปกติ

          หญิงมีอาการคันขา 2 เดือน ทายาก็ไม่หาย ทนไม่ไหวไปหาหมอ ผลออกมาช็อก กลายเป็นมะเร็งตับ เตือน 4 อาการผิดปกติ 
หญิงคันขา 2 เดือน ทนไม่ไหวไปหาหมอ ผลกลายเป็นมะเร็งตับ

          วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เว็บไซต์ CTWANT เผยเรื่องราวของหญิงชื่อสกุล หลี่ วัย 50 ปี จากเมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน เธอมีอาการคันที่ขาอย่างอธิบายไม่ถูก ตอนแรกเธอคิดว่าเป็นอาการแพ้ทางผิวหนัง จึงซื้อยาแก้แพ้ที่ร้านขายยาใกล้บ้านมาใช้ แต่อาการไม่ดีขึ้น ตรงกันข้ามกลับคันมากขึ้น เธอจึงตัดสินใจไปพบแพทย์ ก่อนที่ผลการตรวจจะทำให้ตกใจอย่างคาดไม่ถึง เมื่อพบว่าสาเหตุคือ เธอเป็นมะเร็งตับ 

          เมื่อประมาณ 2 เดือนก่อน ขาของหลี่เริ่มมีอาการคัน หลังจากนั้นอาการก็ค่อย ๆ แย่ลง และคันไปทั้งตัว เธอจึงไปเข้ารับการรักษาที่ศูนย์บริการสุขภาพท้องถิ่น ทางแพทย์ได้ดำเนินการตรวจอัลตราซาวนด์ช่องท้อง ก่อนที่จะพบความผิดปกติ มีสิ่งแปลกปลอมเติบโตอยู่บนตับของคนไข้ ซึ่งคาดว่าเป็นเนื้องอก จากนั้นจึงส่งตัวเธอไปยังโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเจ้อเจียงแห่งที่ 2 เพื่อตรวจเพิ่มเติมและรักษาต่อ  

          ผลการตรวจปรากฏว่า มีเนื้องอกที่ตับจริง และตรวจพบมะเร็งตับในระยะเริ่มต้น ซึ่งนับว่าเป็นโชคดีของเธอที่ตรวจพบได้เร็ว ทางทีมแพทย์ที่โรงพยาบาลดังกล่าวจึงดำเนินการผ่าตัดกำจัดเนื้องอกให้สำเร็จ โดยเบื้องต้นผลออกมาในทิศทางที่ดี ขณะนี้คนไข้กำลังอยู่ระหว่างการฟื้นตัว 


          โดยแพทย์กล่าวว่า เมื่อตับได้รับความเสียหายจากความผิดปกติ อาจจะไปกระตุ้นเส้นประสาทในผิวหนัง ส่งผ่านกระแสประสาทไปยังศูนย์รวมประสาทสั่งการตรงไปยัง Cerebral Cortex หรือเปลือกสมอง ที่ทำหน้าที่รับข้อมูลจากประสาทสัมผัสต่าง ๆ จึงทำให้เกิดความรู้สึกคันไม่หาย 

          ดร.หลี่ เสี่ยวเฉียง รองหัวหน้าแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป ได้เตือนให้สังเกตหากพบอาการผิดปกติบนผิวหนัง 4 ประการต่อไปนี้ ให้ระวังโรคตับ ได้แก่ 

          1. อาการคันผิวหนัง (เช่นเดียวกับกรณีนี้)

          2. อาการผิวเหลือง เมื่อการทำงานของตับบกพร่อง บิลิรูบิน (Bilirubin) สารสีเหลืองที่เกิดจากการสลายตัวของฮีโมโกลบิน (hemoglobin) หรือโปรตีนในเม็ดเลือดแดง จะสะสมในร่างกาย ทำให้เกิดอาการผิวเหลือง และตาเหลือง 

          3. Spider nevi หรือที่เรียกว่า จุดแดงรูปแมงมุม คืออาการรอยแดงที่ผิวหนังที่มีลักษณะคล้ายใยแมงมุม โดยมีจุดแดงตรงกลางและมีเส้นเลือดฝอยสีแดงเล็ก ๆ แผ่ออกไปคล้ายขาแมงมุม หากตับไม่สามารถเผาผลาญเอสโตรเจนได้ ความเข้มข้นของเอสโตรเจนในเลือดจะเพิ่มขึ้น กระตุ้นให้หลอดเลือดฝอยในผิวหนังขยายตัวจนเกิดอาการดังกล่าว 

          4. เลือดออก เนื่องจากตับมีบทบาทสำคัญในการสร้างโปรตีนที่ช่วยให้เลือดแข็งตัว หากจู่ ๆ เหงือกมีเลือดออกโดยไม่มีสาเหตุ มีจุดเลือดออกบนผิวหนัง และมีเลือดออกในระบบย่อยอาหาร อาจเป็นสัญญาณว่าเกิดความเสียหายต่อตับ  

ขอบคุณข้อมูลจาก CTWANT


คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ ? รอโหลดข้อความของเพื่อน ๆ ด้านล่างนี้สักครู่ แล้วร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณได้เลย !
หญิงคันขา 2 เดือน ทนไม่ไหวไปหาหมอ ผลกลายเป็นมะเร็งตับ เตือน 4 อาการผิดปกติ โพสต์เมื่อ 2 กรกฎาคม 2568 เวลา 12:25:08 17,984 อ่าน แสดงความคิดเห็น