5 โรคร้ายถึงตาย ถ้าไม่คุมความดันให้ดี เตือนอย่ามองข้าม แนะวิธีคุมความดัน ทำไม่ยาก


          5 โรคร้ายถึงตาย ถ้าไม่คุมความดันให้ดี หมอแนะวิธีคุมความดัน ทำได้ไม่ยาก เตือนอย่ามองข้าม ก่อนโรคร้ายมาเยือนแบบไม่รู้ตัว

5 โรคร้ายถึงตาย ถ้าไม่คุมความดันให้ดี

          เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2568 เฟซบุ๊ก หมอเจด ของ นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา โพสต์ข้อความเตือน "5 โรคร้ายอาจถึงตุย ถ้าไม่คุมความดันให้ดี !" โดยระบุว่า ความดันสูงเป็นโรคที่คนไทยเจอเยอะมาก และต้องระวัง แต่หลายคนก็ยังมองข้าม ปล่อยให้มันสูง แต่รู้หรือไม่ว่าหากปล่อยไปนาน ๆ โรคร้ายต่าง ๆ จะตามมาแบบไม่รู้ตัว

5 โรคที่จะเจอถ้าไม่คุมความดันให้ดี


1. โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)

          ถ้าความดันสูงต่อเนื่อง สิ่งแรกที่มีปัญหาได้เลยคือ "สมอง" เพราะเส้นเลือดที่เลี้ยงสมองมันบอบบางมาก ๆ พอความดันสูงไปเรื่อย ๆ ผนังหลอดเลือดก็อ่อนแอ สุดท้ายมันก็อาจแตกหรืออุดตันได้ เมื่อหลอดเลือดในสมองแตก จะเกิดภาวะเลือดออกในสมอง

          ผู้ป่วยจะมีอาการทันที เช่น ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด แขนขาอ่อนแรงข้างใดข้างหนึ่ง หรืออาจถึงขั้นหมดสติ ส่วนถ้าหลอดเลือดอุดตัน สมองก็จะขาดเลือดไปเลี้ยง ทำให้เนื้อสมองส่วนที่ขาดเลือดตาย ทำให้อัมพาต ติดเตียง หรือการสูญเสียความสามารถบางอย่าง เช่น การพูดหรือการรับรู้ ใครที่ความดันสูงแล้วยังปล่อยไปไม่สนใจ ระวังนะ โรคนี้มันมาเร็วแบบไม่ทันตั้งตัว

2. โรคหัวใจขาดเลือด (Ischemic Heart Disease)

          หัวใจของเราคือปั๊มที่ทำงานตลอดเวลา ถ้าความดันโลหิตสูง หัวใจก็ต้องทำงานหนักขึ้นเรื่อย ๆ กล้ามเนื้อหัวใจจะหนาขึ้นเพื่อรับมือกับความดันที่สูง แต่การหนาขึ้นนี้ไม่ได้ทำให้หัวใจแข็งแรงขึ้น มันทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้นและเสี่ยงที่จะเกิดปัญหา

          เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจ (หลอดเลือดโคโรนารี) ก็จะเริ่มเสื่อมสภาพ หลอดเลือดแข็งและตีบแคบ ทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่พอ อาจทำให้รู้สึกเจ็บแน่นหน้าอกเวลาเดินหรือออกแรง และถ้าอาจเกิดเส้นเลือดอุดตันกะทันหัน ตามมาด้วยหัวใจวายเฉียบพลันได้ (Myocardial Infarction) อาจทำให้เสียชีวิตได้ทันที

3. โรคไตเรื้อรัง (Chronic Kidney Disease)

          ไตของเราทำหน้าที่กรองของเสียและควบคุมสมดุลของเกลือและน้ำในร่างกาย
ถ้าความดันโลหิตสูงต่อเนื่อง หลอดเลือดเล็ก ๆ ที่ไปเลี้ยงไตจะเริ่มเสียหาย การไหลเวียนของเลือดในไตแย่ลง ไตก็เริ่มเสื่อม

          โรคไตเรื้อรังมักไม่แสดงอาการในระยะแรก แต่เมื่อไตเสื่อมมากขึ้น คุณจะเริ่มรู้สึกเหนื่อยง่าย บวมที่เท้าและขา ปัสสาวะน้อยลง หรือปัสสาวะมีฟองมากเพราะโปรตีนรั่วออกมา และในกรณีที่ร้ายแรงสุดก็คือไตวาย ต้องฟอกไตหรือปลูกถ่ายไต

          การที่ต้องฟอกไต 3 ครั้งต่อสัปดาห์คือสิ่งที่ไม่มีใครอยากเจอ ถ้าคุมความดันโลหิต ก็จะลดความเสี่ยงไตวายได้

4. ภาวะหัวใจล้มเหลว (Heart Failure)

          ถ้าความดันโลหิตสูงทำให้หัวใจต้องทำงานหนักตลอดเวลา กล้ามเนื้อหัวใจจะหนาขึ้นจนถึงจุดที่มันเริ่มอ่อนแรง ไม่สามารถบีบตัวได้เต็มที่ สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายไม่พอ เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว

          คนที่ป่วยหัวใจล้มเหลวจะรู้สึกเหนื่อยง่าย เดินนิดหน่อยก็หอบ บางคนต้องนอนหนุนหมอนสูงเพราะนอนราบแล้วหายใจไม่ออก อาจมีอาการบวมที่ขาและเท้าเพราะร่างกายสะสมของเหลว

5. ภาวะจอประสาทตาเสื่อมจากความดันโลหิตสูง (Hypertensive Retinopathy)

          ความดันโลหิตสูงไม่ได้ทำร้ายแค่หัวใจ สมอง หรือไต แต่มันยังทำร้ายดวงตาของคุณได้ด้วย เส้นเลือดเล็ก ๆ ที่จอประสาทตามีความบอบบางมาก ถ้าความดันสูงต่อเนื่อง เส้นเลือดเหล่านี้จะแข็งและเปราะ ทำให้เกิดเลือดออกในจอประสาทตา หรือจอประสาทตาบวม

          คุณจะเริ่มมองเห็นไม่ชัดเหมือนมีหมอกบาง ๆ บดบัง อาจเห็นจุดดำลอยไปมา หรือแย่กว่านั้นคือสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร

          เชื่อว่าไม่มีใครอยากเจอ 5 โรคข้ามต้น ดังนั้นใครที่มีความดันสูงต้องรีบคุมดี ๆ ซึ่งวิธีควบคุมความดันนั้นไม่ยาย ทำได้ตามนี้

          - วัดความดันเป็นประจำ
          - กินอาหารสุขภาพ ลดเกลือ น้ำตาล และไขมันทรานส์
          - ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ไม่ต้องหนักมาก แต่ให้สม่ำเสมอ
          - เลิกบุหรี่ ลดแอลกอฮอล์ เพราะทั้งสองอย่างนี้ทำให้ความดันพุ่ง
          - นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้หัวใจและร่างกายได้ฟื้นฟู
          - จัดการความเครียด ซึ่งก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความดันโลหิต
          - ถ้าหมอให้ยาคุมความดัน อย่าลืมกินยา อย่าคิดว่า "ไม่มีอาการก็ไม่ต้องกิน"

          แค่ทำตามที่แนะนำ ก็จะลดความดัน รวมถึงลดความเสี่ยง  5 โรคที่จะตามมา


คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ ? รอโหลดข้อความของเพื่อน ๆ ด้านล่างนี้สักครู่ แล้วร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณได้เลย !
5 โรคร้ายถึงตาย ถ้าไม่คุมความดันให้ดี เตือนอย่ามองข้าม แนะวิธีคุมความดัน ทำไม่ยาก โพสต์เมื่อ 30 มิถุนายน 2568 เวลา 11:18:24 แสดงความคิดเห็น