แม่ตกใจ ลูกสาวโทร. ฟ้องถูกแม่บ้านทิ้งของเล่น เช็กวงจรปิดจนรู้ที่มา ตัดสินใจให้เงินเพิ่ม

           ลูกสาวร้องไห้โทร. ฟ้องแม่ แม่บ้านเอาของเล่นไปทิ้งขยะ แม่รีบเช็กวงจรปิดดู รู้ที่มาที่ไป ไม่ต่อว่าและยังขอบคุณ ให้เงินพิเศษตอบแทน

           หลาย ๆ ครอบครัวที่พ่อแม่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน มักจะมีการจ้างแม่บ้านให้คอยดูแลลูก ๆ รวมถึงทำงานบ้าน ซึ่งก็ยากจะคาดเดาถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงที่ลูกอยู่พ้นสายตาพ่อแม่ ว่าเด็กจะเป็นอย่างไร พี่เลี้ยงจะดูแลดีหรือไม่ ได้รับความใส่ใจมากน้อยแค่ไหน ขณะที่แม่คนหนึ่งถึงกับตกใจ เมื่ออยู่ ๆ ลูกสาววัย 5 ขวบก็โทร. มาฟ้อง ร้องไห้บอกว่าแม่บ้านเอาตุ๊กตาแสนรักของเธอไปทิ้งขยะ ! 

           ได้ฟังแบบนั้นแม่ก็รีบเปิดกล้องวงจรปิดที่บ้านเช็กดูทันที ซึ่งแม้ว่าช่วงแรก ๆ เธอจะได้เห็นภาพที่ไม่น่าพอใจ แต่เมื่อทนดูต่อไปจนจบ กลับทำให้ทัศนคติที่มีต่อแม่บ้านเปลี่ยนไป และตัดสินใจให้เงินพิเศษเป็นการตอบแทนอีกด้วย 

           โดยจากรายงานของเว็บไซต์ kenh14.vn เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2568 หญิงเวียดนามรายหนึ่งเผยว่า เธอว่าจ้างแม่บ้านคนหนึ่งให้มาดูแลลูกเป็นเวลา 6 เดือนแล้ว ผ่านการแนะนำของคนรู้จัก แม่บ้านคนนี้เป็นคนเงียบ ๆ มักทำงานไปเงียบ ๆ แต่ก็ดูแลบ้านได้สะอาด มีความเอาใจใส่ 

           แต่แล้ววันหนึ่ง ลูกสาววัย 5 ขวบกลับโทร. มาร้องไห้ฟ้องเธอ ว่าถูกแม่บ้านเอาของเล่นไปทิ้งขยะ ทำให้เธอค่อนข้างตกใจ และไม่พอใจกับพฤติกรรมของแม่บ้าน เธอจึงไปเปิดกล้องวงจรปิดที่อยู่ในห้องนั่งเล่นกับห้องครัวดู ก่อนจะได้เห็นภาพขณะที่แม่บ้านกำลังเก็บของเล่นเด็กที่กระจายอยู๋เต็มพื้น ใส่ไว้ในถุงพลาสติก ซึ่งนั่นทำให้เธออดสงสัยไม่ได้ว่า จำเป็นต้องทำรุนแรงกับเด็กขนาดนั้นเลยหรือ ก็แค่เด็กเล่นของเล่นเท่านั้นเอง 

           เมื่อดูคลิปต่อไป ก็พบภาพขณะที่แม่บ้านล้างจานต่าง ๆ จนเสร็จ ก่อนจะทำความสะอาดห้องครัวต่อ จากนั้นแม่บ้านที่เหนื่อยกับการทำงานก็นั่งลงบนเก้าอี้ ถอนหายใจหนัก ค่อย ๆ ดื่มน้ำ เธอยังเห็นอีกว่ามือของแม่บ้านโดนน้ำยาล้างจานจนบวม 

           ตอนนั้นแม่บ้านเหนื่อยมาก แต่เพราะไม่มีเวลาจะไปหาผ้าสะอาด เธอจึงเอาผ้าสำหรับเช็ดครัวมาเช็ดเหงื่อแทน ทำให้เจ้าของบ้านรู้สึกเศร้าแทน

           และสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นก็ทำให้มุมมองที่เธอมีต่อแม่บ้านเปลี่ยนไป โดยพบว่าลูกสาวของเธอนั่งร้องไห้กอดตุ๊กตาที่แขนหัก อยู่ที่ห้องนั่งเล่น ตอนนั้นแม่บ้านก็เข้าไปนั่งข้าง ๆ เด็กหญิง อธิบายอะไรบางอย่างให้เด็กฟังอย่างอ่อนโยน แม้ว่าเสียงที่ได้ยินผ่านกล้องวงจรปิดจะไม่ชัดเจน แต่แม่ก็สังเกตว่าลูกสาวหยุดร้อง พยักหน้า เธอกอดตุ๊กตาอย่างทนุถนอม ก่อนจะนำไปวางเก็บไว้บนชั้นอย่างเรียบร้อย

           ในอีกหลายชั่วโมงต่อมา เมื่อลูกนำของออกมาเล่น ก็สามารถนำของเล่นไปเก็บได้ด้วยตัวเอง ทำให้แม่อึ้งมาก เพราะปกติกว่าลูกจะยอมทำก็ต้องให้เธอคอยบอกย้ำ ๆ อยู่หลายรอบ ไม่ได้ว่านอนสอนง่ายขนาดนี้

           ด้วยเหตุนี้แม่จึงย้อนดูเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นอีกครั้ง และพบว่าแท้จริงแล้วแม่บ้านเพียง "แกล้ง" เอาของเล่นลูกสาวใส่ถุงพลาสติก เพื่อจะสอนเด็กหญิงให้รู้จักการดูแลสิ่งของของตัวเอง นับเป็นอีกวิธีการให้เด็กได้เรียนรู้จากความรู้สึกสูญเสียของรัก โดยไม่จำเป็นต้องต่อว่าหรือตวาดจนสร้างความรู้สึกเชิงลบในใจเด็ก 

           เธอจึงนึกขึ้นได้ว่า ครั้งหนึ่งแม่บ้านเคยบอกว่า "เด็กไม่ขาดสิ่งใดเลย ยกเว้นความเข้มงวด" ซึ่งตอนนั้นแม่ก็เพียงยิ้มรับ ไม่ได้คิดว่าแม่บ้านจะให้ความใส่ใจในการสอนเด็กจริงจัง 
 
           เมื่อรู้เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ในช่วงบ่ายวันต่อมา แม่ตัดสินใจกลับมาบ้านเร็วกว่าเดิมเล็กน้อย และเมื่อเจอหน้าแม่บ้าน เธอก็ยื่นเงินจำนวนหนึ่งเพิ่มให้จากค่าจ้าง พร้อมกล่าวว่า "ขอบคุณนะที่ไม่ใช่แค่ช่วยฉันทำงานบ้านเพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยสอนลูกฉันให้เป็นคนดีด้วย" ซึ่งเมื่อแม่บ้านได้ฟังก็ประหลาดใจและน้ำตาคลอ แต่ก็พยายามจะเก็บอาการไว้ 

           ทั้งนี้ คุณแม่เผยว่าเธอจะไม่บอกลูกสาวถึงสิ่งที่เห็นจากกล้องวงจรปิด และก็ไม่ได้คิดจะเอาเรื่องแม่บ้านที่นำผ้าเช็ดในครัวมาเช็ดเหงื่อด้วย เพราะเธอเข้าใจว่าคนเราไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นยังเป็นเครื่องเตือนใจ ว่าแม่บ้านนั้นอาจไม่ใช่เพียงแค่คนที่ดูแลงานบ้านหรือทำครัว แต่ยังอาจเป็นคนที่คอยช่วยเหลือ สนับสนุนเราอยู่เบื้องหลัง ให้ครอบครัวของเรามีชีวิตต่อไปอย่างราบรื่นเช่นกัน 

ขอบคุณข้อมูลจาก kenh14.vn