สาวเทียบสภาพ ก่อน-หลังท้อง หน้าเปลี่ยนจนจำตัวเองไม่ได้ ฮือฮาจนเป็นไวรัล

          สาวแชร์ภาพเทียบ ก่อน-หลังท้อง หน้าเปลี่ยนจนจำตัวเองไม่ได้ คนเป็นแม่ต้องเสียสละขนาดไหน ย้ำเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ต้องตื่นตระหนก ชี้ตอนนี้ค่อย ๆ กลับมาเป็นคนเดิมแล้ว 
          วันที่ 2 มิถุนายน 2568 เว็บไซต์อ็อดดิตีเซ็นทรัล รายงานเรื่องราวของ หลีเว่ย สาวจากเมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน ประเทศจีน ที่ได้รับความสนใจอย่างมากบนโลกออนไลน์ หลังจากที่เธอใช้ช่องทางโซเชียล ออกมาแชร์ภาพการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ในช่วงเวลาที่ตั้งครรภ์ลูกน้อย ซึ่งเป็นอะไรที่น่าตกใจอย่างยิ่ง 

          โดยตอนแรกที่หญิงสาวทราบว่าตัวเองตั้งครรภ์นั้น เธอรู้สึกดีใจมาก ตอนนั้นผิวพรรณของเธอดูดีขึ้น ใสกระจ่าง แถมยังเต็มไปด้วยพลังงานอย่างไม่น่าเชื่อ คุณหมอบอกว่าเป็นเรื่องปกติที่เธอจะรู้สึกสดใสขึ้น เพราะมันคือปรากฏการณ์ที่เรียกว่า ความสุขจากการตั้งครรภ์ เนื่องจากระดับของฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนที่สูงขึ้น


          อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนที่ 5 ของการตั้งครรภ์ หลีเว่ย กลับพบว่าใบหน้าของเธอมีการเปลี่ยนแปลงอย่างน่าประหลาด ทั้งจมูกใหญ่ขึ้น ริ้วรอยเริ่มลึกขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จนกระทั่งเธอจำตัวเองในกระจกไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่สิ่งเหล่านี้ยังเป็นแค่จุดเริ่มต้น

          ในตอนที่เธอเข้าสู่ไตรมาสที่ 2 และ 3 ของการตั้งครรภ์ ร่างกายของเธอก็เปลี่ยนแปลงมากขึ้นอีก มีทั้งจุดด่างสีที่แก้มทั้ง 2 ข้าง แขนและขาบวม และแม้หมอจะบอกเธอว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมชาติ แต่เธอก็ยังพยายามปรับการกินอาหาร ลดน้ำตาลและไขมัน รวมถึงเริ่มออกกำลังกายเพื่อลดการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ 





          กระทั่งหลังคลอด เธอสังเกตว่าตัวเองผมบางลง มันคืออาการผมร่วงหลังคลอด และผิวหนังของเธอก็เปลี่ยนจากผิวมันเป็นผิวแห้ง แต่ถึงอย่างนั้นทุกคนยังคงบอกเธอว่าไม่มีอะไรผิดปกติ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นปกติมาก ๆ 

          หญิงสาวจึงมุ่งมั่นว่าจะกินอาหารให้ดีและออกกำลังกายอย่างเพียงพอ กระทั่งผ่านไปไม่กี่เดือน ในที่สุดเธอก็เริ่มกลับมาดู          เหมือนเดิมอีกครั้ง 

          "การตั้งครรภ์ของฉันยากมาก แต่ได้เห็นชีวิตใหม่ที่เติบโต ก็ทำให้ฉันรู้สึกว่ามันคุ้มแล้ว" หลีเว่ย เผยในเว่ยป๋อ 


          เธอยังแชร์ภาพการเปลี่ยนแปลงแบบสุดขั้วของเธอให้ชาวเน็ตได้ดูกัน จนทำให้เรื่องของเธอกลายมาเป็นไวรัลที่ชาวจีนให้ความสนใจกันมาก 
 
          ทั้งนี้ คุณแม่ได้นแนะให้ว่าที่คุณแม่ไม่ต้องตื่นตระหนกไป หากเกิดการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ และขอให้พยายายามรักษาสภาพจิตใจ มองพวกเขาไว้ รวมถึงรักษาแนวทางในการใช้ชีวิตให้ดี 

ขอบคุณข้อมูลจาก Odditycentral