
กลายเป็นประเด็นดราม่าที่ผู้บริโภคหลายคนต่างให้ความสนใจ กรณีวันที่ 18 พฤษภาคม 2568 เพจเฟซบุ๊ก นิกกี้ขยี้ข่าว โพสต์ตำหนิร้านอาหารบุฟเฟต์ชื่อดังแห่งหนึ่ง โดยชี้ว่าร้านบังคับให้ลูกค้าที่มาโต๊ะเดียวกันต้องสั่งโปรโมชั่นเดียวกันทั้งหมด แม้ว่าแต่ละคนจะอยากกินไม่เหมือนกัน มองว่าไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภค ไม่กินแต่ต้องจ่าย
เพจดังกล่าวยังระบุอีกว่า ร้านอาจเข้าข่ายเป็นการละเมิดสิทธิผู้บริโภค ตามพระราชบัญญัติ ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 มาตรา 28 ระบุว่า ผู้ประกอบการต้องแสดงราคาสินค้าและบริการอย่างชัดเจน ณ ที่จำหน่าย ถ้าร้านจะมีกฎอะไรควรขึ้นป้ายบอกให้ชัดเจนประกาศให้ชัดเจน ใครสะดวกก็นั่งรอคิว ใครไม่สะดวกก็เปลี่ยนร้าน แต่ร้านนี้กฎทั้งหมดของร้าน ลูกค้าจะมารู้ตอนจ่ายเงิน ร้านอาหารไม่มีป้ายแสดงราคาอย่างชัดเจน ถือว่า ผิดกฎหมาย



ต่อมา เพจนิกกี้ขยี้ข่าว ออกมาโพสต์ชี้แจงว่า เคสที่พูดถึงไม่ได้เกิดกับโต๊ะของเธอโดยตรง แต่เป็นประสบการณ์ของกลุ่มคนรู้จัก ซึ่งเป็นลูกค้าที่มาใช้บริการครั้งแรกแบบวอล์กอิน และไม่เคยทราบเงื่อนไขของร้านมาก่อน เมื่อได้นั่งร้านให้สแกนเลือกโปรโมชั่น พอแต่ละคนสั่งอาหารที่อยากกินแตกต่างกัน พนักงานจึงเดินมาแจ้งกฎของทางร้านว่าต้องสั่งโปรโมชั่นเดียวกัน คนรู้จักของเธอจึงสอบถามว่ากฎนี้มีแจ้งไว้ที่ไหน หรือเคยประกาศหน้าเพจหรือไม่ พนักงานตอบว่า ไม่เคยมีการประกาศ มีเพียงพนักงานเท่านั้นที่ทราบ
ประเด็นที่มองว่าลูกค้าต้องรู้กฎ ต้องคิดถึงคนที่เขาไม่เคยมาด้วย ผู้บริโภค ควรมีสิทธิได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน ก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการ กรณีร้านไม่มีป้ายแสดงราคาอย่างชัดเจน ถือเป็นการละเมิดสิทธิผู้บริโภค แล้วที่มีประเด็นถกเถียง เพราะกรณีแบบนี้ มันไม่แฟร์กับผู้บริโภค

ร้านโต้ลูกค้าไม่แยกโต๊ะ จะให้ พนง. ยืนเฝ้า ขู่เป็นทนายทั้งโต๊ะ รอรับแรงกระแทก
ด้าน ร้านบุฟเฟต์ About Beef Lava Grill บุฟเฟต์ ปิ้งย่าง เนื้อพรีเมียม ซีฟู๊ด อาหารญี่ปุ่น ที่คาดว่าเป็นร้านที่ถูกพาดพิง โพสต์ข้อความ ไล่เรียงเหตุการณ์เรื่องที่กำลังเป็นประเด็น โดยถอดเสียงจากคลิป เริ่มจากมีน้องพนักงานเดินมาแจ้ง ผู้จัดการ 2 ว่า พี่ไปคุยกับลูกค้าหน่อย ลูกค้าจะคุยกับผู้จัดการ ไปถึงโต๊ะลูกค้าลูกค้าแจ้งว่ากินโปรทุเรียน 3 คน ไม่กินทุเรียน 2 คน
ผู้จัดการ 2 แจ้งกับลูกค้าว่า ถ้าเป็นอย่างนั้น ลูกค้าจะต้องแยกโต๊ะกันเป็นคนละโต๊ะ ไม่สามารถนั่งร่วมโต๊ะกันได้ ลูกค้าถามกลับว่าทำไมต้องแยก พี่ไม่กินทุเรียนอยู่แล้วถ้าไม่ไว้ใจ ให้พนักงานมายืนเฝ้าได้เลย ผู้จัดการ 2 แจ้งกับลูกค้าว่าจะทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะเป็นระเบียบของทางร้าน โต๊ะเดียวกันต้องกินโปรเดียวกัน
ลูกค้าก็ได้พูดแทรกเข้ามาว่า "ไหนอะกฎไม่เห็นจะมีเขียนไว้เลย อย่างงี้มันเอาเปรียบลูกค้าไปหรือเปล่า" จะฟ้อง สคบ. ผู้จัดการ 2 ก็ได้แจ้งว่ามันทำอย่างนั้นไม่ได้จริง ๆ เพราะเป็นระเบียบของทางร้าน แล้วก็มีลูกค้าผู้หญิงเสื้อน้ำเงินพูดขึ้นมาว่า "แต่เนี่ยในทางกฎหมายมันไม่ถูกต้องพร้อมผายมือไปทางโต๊ะข้าง ๆ ว่า เนี่ยโต๊ะนี้ก็เป็นทนายกันทั้งหมด" พร้อมกับพี่ผู้ชายโต๊ะข้าง ๆ ก็พูดว่า "น้องจะไม่ยอมใช่ไหม งั้นน้องรอรับแรงกระแทกนะน้อง พร้อมรับแรงกระแทกเหรอ" พร้อมกับให้ไปปรึกษาหาคำตอบกับผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจว่าเรื่องนี้จะเอายังไง
ลูกค้ามารับบัตร คิวไว้ 9 ท่านไม่ได้แจ้งอะไรไว้ว่าใครจะรับโปรไหนหรือยังไง เพียงแค่ขอคิว 9 ที่ มีลูกค้ามาก่อน 4 ที่ เปิดโต๊ะใช้บริการก่อนอีก 5 ที่ มาทีหลัง ตอนเกิดเหตุยังไม่ได้มีการชำระค่าบริการใด ๆ ทั้งสิ้น
ผู้จัดการ 1 เข้าไปคุยหลังจากผู้จัดการ 2 คุยไปแล้ว รับเรื่องจากผู้จัดการ 2 คือ ลูกค้าไม่พอใจที่นั่งโต๊ะเดียวกันแล้วต้องเป็นแพ็กเกจเดียวกัน
ผู้จัดการ 2 ได้เสนอแนวทางให้นั่งแยกโต๊ะไปแล้ว (ลูกค้าก็บอกว่ามาด้วยกันต้องนั่งแยกโต๊ะกันมันแปลก ๆ) ลูกค้าในโต๊ะมี 5 ท่าน ทานทุเรียน 3 ไม่ทานทุเรียน 2 ผู้จัดการ 2 อธิบายในมุมระบบของทางร้านในการเปิดโต๊ะ ว่าด้วยทางเทคนิคของแอปฯ แต่ละโต๊ะสามารถเปิดได้แพ็กเกจเดียว
ลูกค้าบอกให้เปิดโต๊ะ แล้วให้ทำการลดราคาส่วนต่างให้ ซึ่ง ผู้จัดการ 1 ปฏิเสธไป แล้วทางลูกค้าก็บอกว่า ถ้าคุณไม่ยอมก็รอรับแรงกระแทกไป แล้ว ผู้จัดการ 1 ก็โทร. หาแอดมินเพื่อแจ้งเรื่อง ฉันก็เลยโพสต์ ใจความว่า…
"ทุกวันนี้ไม่ขออะไรมากเลย ขอหาเช้ากินค่ำอย่างสงบสุข ขออย่าได้มีพวกพระเจ้า ลงมาจากสวรรค์ เข้ามากินในร้านเลยเถอะ สาาาาาธุ… ตอนนี้ก็กำลังวีนอยู่ ว่าทำไมคนละโปรกันนั่งโต๊ะเดียวกันไม่ได้ ทำไมไม่ติดป้ายบอก ให้ชัดเจน ฉันเป็นทนาย ฉันจะไปฟ้อง สคบ. แถมมีขู่ด้วยนะ ว่าถ้าไม่ให้งั้นเดี๋ยวรอรับแรงกระแทกได้เลย ตอนนี้ด่าผู้จัดการอยู่ ทำไมเบ่งจัง ลงคลิปดีมะ…"
หลังจากนั้นลูกค้าโต๊ะนี้ก็โวยวาย ว่าทำไมโพสต์แบบนั้น เลยให้ทางผู้จัดการ 1 เอาเบอร์โทรศัพท์ ไปให้เพื่อพูดคุย ใจความว่า โพสต์แบบนี้จะเอายังไง ฉันก็ตอบว่า ไม่ได้หมายถึงใคร ไม่ได้ระบุตัวตน ฉันไม่เจรจาต่อเพราะฉันเองรู้สึกว่าถูกข่มขู่ ว่าถ้าไม่ลดให้ 200 บาท ก็รอรับแรงกระแทก และข่มขู่ต่อถ้าไม่ยอมเขาจะดำเนินการทางกฎหมาย เพราะพวกเขาเป็นทนาย เลยเป็นที่มาของเหตุการณ์ทั้งหมดนี้
อนึ่ง พบว่าก่อนหน้านี้ เพจร้านบุฟเฟต์ แชร์โพสต์ของ เพจ นิกกี้ขยี้ข่าว พร้อมกับระบุข้อความว่า "สรุปที่หน้าร้านตอนขู่ คือแกโกรธที่จะเอาส่วนลด 200 บาทแต่ฉันไม่ลดให้ แกเลยเอาฉันไปประจาน อ้างกฎหมายสารพัดเนี่ยนะ เฮ้อ…"

