บอสเปิดเหตุผล คัดผู้สมัครทิ้ง เหตุมาสัมภาษณ์งานก่อนเวลา 25 นาที คนถกกันสนั่น มาก่อนเวลาไม่ดียังไง แค่จู้จี้ หรือเป็นเรื่องการจัดการเวลา

ในขณะที่การตรงต่อเวลาเป็นสิ่งสำคัญ แต่บางครั้งการเผื่อเวลามากเกินไปกลับกลายเป็นข้อเสีย ที่อาจทำให้เราพลาดโอกาสในการได้งาน ดังเช่นสิ่งที่บอสรายหนึ่งนำมาบอกเล่า จนกลายเป็นไวรัลที่เรียกข้อถกเถียงอย่างมาก
วันที่ 13 เมษายน 2568 เว็บไซต์ Economic Times รายงานว่า แมตธิว พรีเวตต์ เจ้าของธุรกิจบริการทำความสะอาดในแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย สหรัฐฯ ออกมาเปิดเผยเรื่องที่เขาปฏิเสธผู้สมัครงานรายหนึ่งเพราะมาสัมภาษณ์ก่อนเวลานัดหมาย 25 นาที โดยบอสรายนี้โพสต์บน LinkedIn ของเขาว่า
"เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผมเจอผู้สมัครที่มาถึงก่อนเวลา 25 นาที เพื่อสัมภาษณ์งานตำแหน่งผู้ดูแลสำนักงาน และนั่นเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผมไม่จ้างเขา คุณคิดยังไงกับผู้สมัครที่มาถึงเร็วกว่าที่ควร" โพสต์ดังกล่าวกลายเป็นไวรัลทันที และกระตุ้นให้เกิดการถกเถียงในวงกว้างว่าการมาสัมภาษณ์งานนั้น ควรมาถึงในระยะเวลาเท่าไรจึงเหมาะสม บางคนยังไม่เข้าใจว่าการมาถึงก่อนเวลาไม่ดียังไง เพราะอย่างน้อยผู้สมัครก็ไม่ได้มาสาย
ด้วยเหตุนี้ พรีเวตต์ จึงเข้ามาอธิบายเหตุผลในมุมของเขาว่า เขาไม่ได้ทำตัวยุ่งยากหรือจู้จี้ แต่แค่พยายามจะรักษาขอบเขตและหลีกเลี่ยงการรบกวนใด ๆ ในสำนักงานเล็ก ๆ ของเขาเท่านั้น
"การมาถึงเร็วเป็นเรื่องดี แต่การมาถึงเร็วเกินไปมาก ๆ ก็บ่งชี้ได้ว่าบุคคลนั้น ๆ บริหารเวลาได้ไม่ดี โดยรวมแล้วผมรู้สึกว่ามันแสดงถึงการขาดความตระหนักรู้ทางสังคม และขาดการจัดการเวลาที่เหมาะสม เพราะเขา (ผู้สมัคร) ก็ไม่ได้มาจากที่ไกลมาก ๆ ด้วย"
พรีเวตต์ มองว่าการที่ผู้สมัครมาถึงเร็วมาก ๆ สร้างแรงกดดันและความอึดอัดแก่เขา สำนักงานเล็ก ๆ ของเขามีพื้นที่ส่วนตัวน้อย และผู้สมัครอาจได้ยินเสียงโทรศัพท์ติดต่องานของเขา เขายอมรับว่ามันทำให้เขารู้สึกถูกเร่ง และไม่สบายใจ สำนักงานของเขาไม่ได้เอื้ออำนวยให้แขกที่มาถึงเร็วอย่างไม่คาดฝัน สามารถนั่งรอได้อย่างสบายใจ
เมื่อถามถึงช่วงเวลาที่เหมาะสม พรีเวตต์มองว่า มารยาทสำหรับการสัมภาษณ์งานทั่ว ๆ ไป ผู้สมัครควรมาถึงก่อนเวลา 5-15 นาที แต่ไม่มากไปกว่านั้น ซึ่งสำหรับเขานี่เป็นเรื่องของความเป็นมืออาชีพ พื้นที่ส่วนตัว และการเคารพเวลา ทั้งตัวเขาและผู้สมัครเอง
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ชาวเน็ตส่วนหนึ่งเห็นด้วยกับเขา แต่ส่วนใหญ่ดูเหมือนจะยืนอยู่ฝั่งผู้สมัคร โดยมีความเห็นจากคนอื่น ๆ บน LinkedIn เช่น
"ไม่เลย นี่เป็นการประเมินที่ไร้สาระมาก ส่งเขามาหาฉัน ฉันจะจ้างเขาเลยทันที"
"จะเกิดอะไรขึ้นล่ะ ถ้าวิธีการเดินทางเพียงอย่างเดียวของเขาคือรถเมล์ หรืออะไรสักอย่างที่เขาควบคุมไม่ได้ว่าจะมาถึงกี่โมง ดูเหมือนเขาแค่ทำในสิ่งที่ต้องทำ เพื่อให้มั่นใจว่าจะมาถึงทันเวลา"
คนอื่น ๆ ยังตั้งข้อสังเกตว่า ในสภาพระบบขนส่งที่ไม่แน่นอนดังเช่นทุกวันนี้ ทั้งรถไฟล่าช้า การจราจรที่คาดเดาไม่ได้ การมาถึงก่อนเวลาน่าจะเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยกว่าการมาสาย
อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่มีกฎตายตัวว่าผู้สมัครควรมาถึงก่อนเวลานานแค่ไหน แต่นี่ก็เป็นเรื่องเตือนใจอย่างดีสำหรับผู้สมัคร ในการสร้างความสมดุลระหว่างความตรงต่อเวลา และการคำนึงถึงบริบทต่าง ๆ เช่นเดียวกับฝั่งนายจ้างที่ถูกตั้งคำถามเรื่องความยืดหยุ่น ทั้งนี้ รายงานยังระบุว่าจุดที่เหมาะสมในขณะนี้ยังคงอยู่ที่ 15 นาที ซึ่งเร็วพอที่จะทำให้ฝั่งนายจ้างเห็นว่าผู้สมัครมีความพร้อม แต่ก็ไม่เร็วเกินไปจนฝั่งนายจ้างไม่ทันตั้งตัว
ขอบคุณข้อมูลจาก Economic Times