
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
จากข่าวชวนสะเทือนใจหัวอกคนเป็นแม่ กรณี ฝน อายุ 26 ปี นักศึกษาปริญญาโทเพิ่งจบใหม่ คบหากับ นายแว่น ซึ่งเป็นหมอในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ก่อนจะเจอพฤติกรรมที่ฝ่ายชายเจ้าชู้ และมักนำเรื่องไม่ดีไปฟ้องแม่ตัวเอง ทำให้แม่ของหมอไม่ค่อยชอบเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจขอเลิก และเธอก็ท้อง แต่สุดท้ายก็เลิกกับหมอไม่ได้
ขณะตั้งท้อง ฝ่ายชายก็ไม่ได้ดูแลเธอเลย แม้กระทั่งฝากครรภ์เธอยังต้องนั่งรถไปฝากครรภ์เอง ส่วนค่าใช้จ่าย ฝ่ายชายขอรับผิดชอบ 60/40 (ฝ่ายชาย 60, ฝ่ายหญิง 40) ทางฝ่ายชายไปปรึกษากับแม่ของฝ่ายชายได้ข้อสรุปว่า จะจัดงานแต่งกัน แต่ไม่จดทะเบียนสมรส ซึ่งเธอก็ไม่ได้เรียกร้องค่าสินสอดสักบาท
ส่วนพฤติกรรมของแม่ฝ่ายชาย พยายามจะให้เธอนั้นเลิกรากับลูกชาย เคยออกอุบายขอมาดูที่หอพัก พอถึงเวลาพาชายฉกรรจ์มา 2 คน สวมถุงมือก่อนเข้ามาขนข้าวของเสื้อผ้าของใช้ต่าง ๆ ของฝ่ายชายกลับออกไปทั้งหมด และสั่งห้ามยุ่งเกี่ยวกับฝ่ายชายอีก ส่วนเด็กหลังคลอดแล้วให้เอาเด็กมา ทางบ้านฝ่ายชายจะเลี้ยงเอง หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เธอเครียดจนมีภาวะซึมเศร้า

ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
จากนั้นฝ่ายชายก็ขาดการติดต่อและหายไปเลย จนกระทั่งวันที่เธอคลอดลูกเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางฝ่ายชายและแม่ฝ่ายชายมาปรากฏตัวที่ห้องรอคลอดและเอาเอกสารสัญญามาให้เธอเซ็น โดยมี 2 ทางเลือก คือ
1. หลังคลอดให้ยกลูกให้ทางบ้านฝ่ายชายและจะให้เงินเดือนละ 10,000 บาท แต่มีข้อแม้ว่า ฝ่ายหญิงรวมถึงครอบครัวฝ่ายหญิงต้องไม่มา ยุ่งเกี่ยววุ่นวายอีก2. หากฝ่ายหญิงจะเอาเด็กไปเลี้ยงดูเอง ก็ต้องตัดขาดกับทางฝ่ายชายโดยที่ฝ่ายชายจะไม่ส่งเสียค่าเลี้ยงดูใด ๆ และไม่รับรองบุตร

ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
คุณฝน บอกว่า ตอนนั้นเธอเลือกอะไรไม่ได้และกำลังนอนอยู่บนเตียงรอคลอด เธอเครียดมาก สุดท้ายปัญหาก็ยังคาราคาซังจนกระทั่งหลังคลอด เธอรีบเอาลูกกลับมาเลี้ยงที่บ้านต่างจังหวัด ทางฝ่ายชายและแม่ฝ่ายชายก็พยายามมาบีบบังคับให้เธอเลือกและเซ็นสัญญา จนสุดท้ายเธอเซ็นสัญญาและเลือกข้อ 1. ยกลูกให้ทางบ้านฝ่ายชายและได้รับเงินเดือนละ 10,000 บาท แต่มีข้อแม้ว่า เธอและครอบครัวต้องไม่มายุ่งเกี่ยววุ่นวายอีก แต่หลังจากนั้นเธอรู้สึกคิดถึงลูก อยากเจอลูก จึงขอร้องทางบ้านฝ่ายชาย ซึ่งบ้านฝ่ายชายก็ยอมให้เจอ โดยสลับกันเอาลูกไปเลี้ยงคนละ 3-4 วัน

ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
กระทั่งวันเกิดเหตุ แม่ฝ่ายชายขอเข้ามารับหลาน ซึ่งนัดกันที่บ้านของพี่ชาย ครั้งนี้เธอรู้สึกแปลก ๆ ว่าถ้ายอมให้ลูกไปอยู่ทางบ้านฝ่ายชายรอบนี้จะทำให้เธอไม่ได้เจอลูกอีก พอฝ่ายชายและแม่มาถึงก็ขออุ้มหลาน ก่อนจะแย่งลูกไปจากอ้อมกอดคนเป็นแม่ จนคุณฝนล้มลง ทั้งที่ยังมีบาดแผลจากการผ่าคลอด และจนถึงตอนนี้อีกฝ่ายก็ยังไม่ให้เจอลูกอีกเลย
แม่เด็กเข้าแจ้งความพรากผู้เยาว์ หลังอีกฝ่ายไม่คืนลูก ยืนกรานในสัญญาที่เซ็น
คุณฝน ยื่นคำขาดท้ายรายการโหนกระแสว่า ขอให้ครอบครัวของฝ่ายชายติดต่อมา นำลูกสาวมาคืนภายในวันที่ 3 เมษายน ไม่เช่นนั้นจะไปแจ้งความ เพราะในตอนแรกไม่ได้คิดจะเอาความอะไรเลย แค่อยากได้ลูกคืนเท่านั้น ซึ่งจากหลักฐานนั้นส่อเป็นการบุกรุก, พรากผู้เยาว์ และความรุนแรงในครอบครัว โดยเฉพาะเรื่องพรากผู้เยาว์ โทษหนัก และเป็นอาญาแผ่นดิน หากเริ่มดำเนินคดีแล้ว จะไม่สามารถถอนได้
ต่อมา ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง พร้อมกับ คุณฝน เข้าแจ้งความที่ สน.ประเวศ
เนื่องจากอีกฝ่ายไม่มีทีท่าว่าจะคืนลูกให้กับแม่
ทั้งยังคงยึดมั่นในสัญญาที่ทำไว้ โดยทนายความอีกฝ่ายนั้น ยอมรับว่า
ไม่ทราบเรื่องราวก่อนหน้า และไม่เคยเห็นคลิปที่มีการบุกหอพักบุกบ้าน
ล่าสุดทนายปิดเครื่อง ไม่สามารถติดต่อได้ ส่วนตัวคุณหมอนั้นไม่ยอมรับสาย

ภาพจาก ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง

ภาพจาก ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง
นอกจากนี้ ทางพี่ชายของคุณหมอ ยังส่งข้อความไปหาญาติของแม่เด็ก ในทำนองต่อว่าว่าทำไมไม่ทำตามสัญญา ซึ่งกรณีสัญญานี้ ต้นอ้อได้ประสานไปยัง พม. เรียบร้อยแล้ว ส่วนตัวมองว่ายังไงก็โมฆะล้านเปอร์เซ็นต์ ส่วนคดีพรากผู้เยาว์เป็นอาญาแผ่นดิน เมื่อแจ้งความแล้ว หากตำรวจทราบว่าเด็กอยู่ที่ไหน ก็จะมีอำนาจนำตัวเด็กกลับมาได้ทันที
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3, โหนกระแส