15 - 18 ม.ค. ไทยเจอมวลอากาศเย็นระลอกใหม่ เตรียมหนาวลงอีก 1-4 องศา ก่อนอากาศเริ่มอุ่นขึ้น
วานนี้่ (15 มกราคม 2568) กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
โดยช่วงวันที่ 15 - 18 มกราคม
บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีน
แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้
ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรงก่อน
ส่วนภาคอื่น ๆ อุณหภูมิจะลดลงในระยะถัดไป
โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2 - 3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 19 - 21 มกราคม บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1 - 3 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า แต่ยังคงทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นต่อเนื่อง
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 - 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ข้อควรระวัง : ในช่วงวันที่ 15 – 18 มกราคม ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง รวมทั้งระวังอันตรายจากอัคคีภัยเนื่องจากสภาพอากาศแห้งและลมแรง
สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาชายฝั่งไว้ด้วย ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง
ส่วนในช่วงวันที่ 19 - 21 มกราคม ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย
คาดหมายอากาศรายภาค (15 – 21 มกราคม)
ภาคเหนือ
วันที่ 15 - 16 และ 19 - 21 มกราคม อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 - 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 10 - 18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25 - 31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 3 - 12 องศาเซลเซียส
วันที่ 17 - 18 มกราคม อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1- 3 องศาเซลเซียส โดยมีอุณหภูมิต่ำสุด 9 - 16 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 24 - 29 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 2 - 10 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
วันที่ 16 - 18 มกราคม อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2 - 4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 8 - 17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25 - 29 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 4 - 10 องศาเซลเซียส
วันที่ 19 - 21 มกราคม อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 - 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 10 – 20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 - 31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6 - 13 องศาเซลเซียส
ภาคกลาง
วันที่ 15 - 16 และ 19 - 21 มกราคมอากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 - 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15 - 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 - 33 องศาเซลเซียส
วันที่ 17 – 18 มกราคม อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1- 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 13 - 17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 - 31 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออก
วันที่ 15 - 16 และ 19 - 21 มกราคม อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 - 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17 - 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 - 34 องศาเซลเซียส
วันที่ 17 - 18 มกราคม อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1 - 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15 - 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 - 31 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ตอนบนของภาคมีอากาศเย็นในตอนเช้าตลอดช่วง โดยในช่วงวันที่ 15 - 18 มกราคม มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณตอนล่างของภาคในช่วงวันที่ 15 - 16 มกราคม
ส่วนในช่วงวันที่ 19 - 21 มกราคม มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 17 - 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26 - 33 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
ตอนบนของภาคมีอากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 16 - 17 มกราคม ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2 - 3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 18 – 21 มกราคม ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 - 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 21 - 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 - 34 องศาเซลเซียส
กรุงเทพและปริมณฑล
วันที่ 15 - 16 และ 19 - 21 มกราคม อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 - 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19 - 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 - 34 องศาเซลเซียส
วันที่ 17 - 18 มกราคม อากาศเย็น กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1 - 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17 - 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 - 31 องศาเซลเซียส