ยูเนสโกประกาศรับรองขึ้นทะเบียนต้มยำกุ้ง เป็นตัวแทนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ นับเป็นรายการที่ 5 ของไทย
วันที่ 3 ธันวาคม 2567 องค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก (UNESCO) ได้จัดการประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาล ครั้งที่ 19 ขึ้นที่กรุงอะซุนซิออง สาธารณรัฐปารากวัย ว่าด้วยเรื่องการสงวนรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม (Intangible Cultural Heritage) หรือมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ เพื่อให้มั่นใจว่ามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่สำคัญทั่วโลกจะได้รับการคุ้มครองที่ดีขึ้น
โดยประเทศไทยได้เสนอ "ต้มยำกุ้ง" เมนูอาหารไทยชื่อดังที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ให้ขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ (The Representative List of the Intangible Cultural Heritage of Humanity) จากนั้น แนนซี โอเวลาร์ เด โกโรสตีอากา ประธานคณะกรรมการในที่ประชุม ได้เคาะค้อนประกาศรับรองโดยสมบูรณ์
ภาพจาก UNESCO
ด้านนายกรัฐมนตรีไทย แพทองธาร ชินวัตร ได้แสดงความยินดีผ่านระบบวีดิทัศน์ กล่าวว่า ในนามของรัฐบาลไทยและคนไทยทั้งประเทศ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งในโอกาสพิเศษนี้ ขอขอบคุณทางคณะกรรมการฯ ที่ได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ พร้อมทั้งกล่าวเชิญชวนให้ทุกท่านได้ลิ้มลองต้มยำกุ้ง หรือหาสูตรทางออนไลน์ทดลองทำกินที่บ้าน เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งเส้นทางความอร่อยและรักษาไว้ซึ่งมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม
ภาพจาก UNESCO
ต้มยำกุ้งของไทย มีต้นกำเนิดจากภูมิปัญญาและวิถีปฏิบัติอันประณีตของชุมชนริมน้ำ สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นในทุกระดับของสังคม จนกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เป็นเมนูอาหารที่สะท้อนถึงความเข้าใจในการใช้ชีวิตสอดคล้องกับธรรมชาติ ใช้สมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ทั้งยังแสดงถึงศิลปะการผสมผสานรสชาติ และคุณค่าทางโภชนาการอย่างลงตัว ต้มยำกุ้งจึงเป็นเครื่องยืนยันอย่างดีถึงมรดกทางวัฒนธรรม อันเป็นส่วนหนึ่งของ Soft Power ของไทย
ต้มยำกุ้ง นับเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของประเทศไทย ลำดับที่ 5 ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ จากยูเนสโก โดยก่อนหน้านี้มีจำนวน 4 รายการ ได้แก่ โขน นวดไทย โนรา และประเพณีสงกรานต์
ภาพจาก UNESCO
ขอบคุณข้อมูลจาก UNESCO, TNN, เดลินิวส์