ผู้พันทิพย์ ชลรัศมี งาทวีสุข คือใคร ประวัติผู้ประกาศข่าวคนเก่ง ที่เคยมีข่าวกับ พล.อ. ประวิตร

           รู้จัก ผู้พันทิพย์ ชลรัศมี งาทวีสุข ผู้ประกาศข่าวคนเก่งของช่อง 5 และนักธุรกิจสาวคนดัง ที่ครั้งหนึ่งเคยมีข่าวกับ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก่อนกลับมาถูกจับตาใหม่อีกครั้งในตอนนี้

           กำลังเป็นที่จับตาไม่น้อยเลยในขณะนี้ กับ ผู้พันทิพย์ ชลรัศมี งาทวีสุข ผู้ประกาศข่าวสาวคนเก่งแห่ง ททบ. 5 ที่จู่ ๆ ชื่อของเธอก็ถูกจับตาอย่างหนักในตอนนี้ เราจะไปทำความรู้จักประวัติและชีวิตส่วนตัวของเธอกันค่ะ

ประวัติ ผู้พันทิพย์ ชลรัศมี งาทวีสุข

           ผู้พันทิพย์ ชลรัศมี งาทวีสุข เกิดเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2524 เป็นบุตรสาวของนายชาญชัย และนางมณฑารัตน์ งาทวีสุข (เจ้าของบริษัท สื่อสายรุ้ง จำกัด)

           ในด้านการศึกษา ชลรัศมี งาทวีสุข จบการศึกษาชั้นประถมและมัธยมศึกษาจากโรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์ และเรียนชั้น ม. ปลายจนจบ ม.6 ที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา จากนั้นเข้าศึกษาต่อในคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สาขาการสื่อสารมวลชน วิทยุและโทรทัศน์ เรียนต่อปริญญาโทในด้านสื่อสารมวลชนระหว่างประเทศที่มหาวิทยาลัยลีดส์ สหราชอาณาจักร และยังคว้าเกียรตินิยมได้อีกด้วย

ประวัติการทำงาน ผู้พันทิพย์ ชลรัศมี งาทวีสุข กับงานผู้ประกาศข่าว - ธุรกิจส่วนตัว

           ระหว่างที่เรียนนั้น ผู้พันทิพย์ ชลรัศมี งาทวีสุข ได้เป็นอีกคนที่เข้าร่วมกิจกรรมมากมายของทางมหาวิทยาลัย เช่น งานฟุตบอลประเพณีจุฬา-ธรรมศาสตร์ และในช่วงปี 4 เธอได้มีโอกาสรายงานข่าวการเลือกตั้งผ่านสถานีวิทยุจุฬาฯ เข้าฝึกงานที่ไอทีวี และเมื่อเรียนจบ ก็ได้ทำงานเป็นผู้ประกาศข่าวของสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ในปี 2545 โดยเริ่มต้นจากข่าวในพระราชสำนัก และกันไปทำข่าวสายเศรษฐกิจในรายการ เข็มทิศเศรษฐกิจ รวมทั้งยังได้ทำรายการ จับประเด็นข่าวร้อน, เช้านี้ประเทศไทย ทางช่อง 5 อีกด้วย

           ในปี 2552 ชลรัศมี งาทวีสุข ได้จัดรายการวาไรตี้คือ คุยยกบ้าน และ ชลรัศมีกับวีไอพี ซึ่งเป็นการสัมภาษณ์บุคคลวีไอพี แต่ภายหลังรูปแบบรายการจะเป็นการพาไปกินไปเที่ยวมากกว่า

           นอกจากนี้ ในปี 2551 เธอยังได้เข้ารับราชการทหาร โดยเริ่มจากยศร้อยตรี และได้เลื่อนยศมาเป็นลำดับ จนกระทั่งปี 2558 ซึ่งเป็นยุค คสช. ชลรัศมี ก็ได้เลื่อนยศจนเป็ผู้พัน และคนก็เรียกเธอในชื่อใหม่ว่า ผู้พันทิพย์

           ในส่วนของธุรกิจนั้น ผู้พันทิพย์ ชลรัศมี งาทวีสุข ยังเป็นเจ้าของแบรนด์ผลไม้อบแห้งที่ชื่อว่า ไททิพย์ และเป็นกรรมการบริษัท 2 แห่งคือ บริษัท สื่อสายรุ้ง จำกัด ดำเนินธุรกิจของบริษัทโฆษณา มีเธอเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ 30% ร่วมกับคนในครอบครัว และเธอยังเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท ชมทิพปภา จำกัด ดำเนินธุรกิจขายส่งผักและผลไม้ โดยที่เธอนั่งในตำแหน่งคณะกรรมการบริษัท

ผู้พันทิพย์ ชลรัศมี งาทวีสุข และข่าวกับ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ

           ก่อนหน้านี้ ส.ส.รังสิมันต์ โรม แห่งพรรคก้าวไกล เคยออกมาพูดถึงความสัมพันธ์ของ ผู้พันทิพย์ ชลรัศมี งาทวีสุข กับ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ อันเนื่องมาจากเมื่อปี 2559 พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในขณะนั้น ได้รับเชิญให้ร่วมประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาเซียนและสหรัฐอเมริกา ที่รัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา แต่ปรากฏว่ามีเอกสารหลุดออกมา ถึงความผิดปกติของการเดินทางในครั้งนี้ ที่เป็นการประชุมแค่ 4 วัน แต่ใช้งบเดินทางกว่า 21 ล้านบาท มีการเช่าเหมาลำเครื่องไป มีค่าอาหารกว่า 600,000 บาท และมีเมนูไข่ปลาคาเวียร์อีกด้วย

           อย่างไรก็ตาม ในรายชื่อของผู้ที่เดินทางนั้น ปรากฏว่ามีชื่อของ ผู้พันทิพย์ ชลรัศมี งาทวีสุข เป็นหนึ่งในผู้ที่ร่วมเดินทางไปในครั้งนี้ด้วย แต่ต่อมาทาง ผู้พันทิพย์ ได้ออกมาปฏิเสธเรื่องนี้อย่างแข็งขัน ว่าแม้จะมีรายชื่อของเธอที่ไปร่วมทริป ประวิตร ฮาวาย จริง แต่เธอไม่ได้ไป เพราะต้องทำรายการเช้านี้ประเทศไทย ที่ช่อง 5 และคนก็มโนกันไปเองว่า เธอไปต่างประเทศ


อ่านข่าว : เพจดังเปิดชื่อคนร่วมทริปประวิตร พบมี ชลรัศมี นักข่าวสาวด้วย-เจ้าตัวยันไม่ได้ไป ลั่นอย่ามโนเยอะ !

           ในขณะนิตยสาร ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ได้มีการลงภาพของ พล.อ. ประวิตร และ ชลรัศมี พร้อมกับพาดหัวว่า "แตะเธอโลกแตกแน่" และ สส. รังสิมันต์ โรม ก็บอกว่า "ผมไม่แน่ใจว่า พล.อ.ประวิตรกับคุณชลรัศมีมีความสนิทสนมกันมากน้อยแค่ไหน แต่ก็พบว่าวารสารฉบับหนึ่งลงพาดหัวว่า "แตะเธอโลกแตกแน่" ผมว่าก็อาจจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมากพอสมควร"


           การขุดคุ้ยเรื่องความสัมพันธ์ของ พล.อ. ประวิตร และ ผู้พันทิพย์อย่างหนัก ทำให้ พล.อ. ประวิตร ถึงกับออกมาลั่นว่า "ส่วนที่มีการพุ่งเป้ามาที่เรื่องส่วนตัวนั้น เรื่องส่วนตัวเรื่องอะไร ผมมีเรื่องอะไร เรื่องผู้หญิงใช่หรือไม่ โธ่เอ้ย ดีนะที่ผมไม่ยุ่งกับผู้ชาย มันแปลกอะไร ก็ผมเป็นโสด จะยุ่งกับใครก็ได้ ถ้าผมยุ่งกับผู้ชายก็ว่าไปอย่าง ส่วนสาเหตุที่ไม่แต่งงานนั้น เรื่องของผม ไม่เกี่ยวกับใคร ส่วนจะมีคนรู้ใจหรือไม่ ก็เรื่องของผมอีก เป็นเรื่องส่วนตัว จะถามไปทำไม อยากให้ถามเรื่องงาน และคงไม่มีใครมาอิจฉา อายุ 72 ปีแล้ว อยากให้สื่อช่วยกันบ้าง ถ้าพูดเรื่องจริงคงไม่มีใครว่า ซึ่งผมตอบเรื่องจริงทุกเรื่อง ไม่เคยโกหกสื่อ"