มิจฉาชีพโทร. หาแม่ อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร พอรู้ว่าแม่ตายไปแล้ว เสียงเปลี่ยนทันที

          แม่เสียชีวิตไปแล้ว ยังเจอแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทร. มาหลอก ลูกชายคุยด้วยสักพักสุดทน ต้องเฉลยความจริงชวนเศร้า ทำเอามิจฉาชีพเสียงเปลี่ยน ยังไม่วายเลยนะเนี่ย


          กลายเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตก สำหรับ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มีข้อมูลส่วนตัวของเรา ก่อนจะโทร. มาแอบอ้างสารพัด ที่น่าเป็นห่วงคือกลุ่มผู้สูงอายุที่อาจจะหลงเชื่อ และอาจนำไปสู่การเสียเงินทองจำนวนมากได้

          วันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 เพจเฟซบุ๊ก Drama-addict เผยเรื่องราวเตือนภัย เมื่อลูกที่เพิ่งสูญเสียแม่ไปได้ไม่นาน ได้รับโทรศัพท์จากเครื่องแม่ ปลายสายนั้นเป็น มิจฉาชีพ ที่ยังก้มหน้าก้มตาจะหลอกคน โดยที่ไม่รู้เลยว่าปลายสายนั้นได้เสียชีวิตไปแล้ว

          จากคลิปจะได้ยินการพูดคุยกันระหว่างมิจฉาชีพ ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร โทร. มาหาคุณแม่ ซึ่งแม้ลูกชายจะเป็นคนรับสาย แต่อีกฝ่ายก็ไม่เอะใจแต่อย่างใดว่าใช่คนเดียวกันหรือไม่ โดยมีการพูดทำนองว่าไปพัวพันกับการเปิดบัญชีผิดกฎหมาย โดยในตอนแรกนั้นลูกชายก็ตั้งใจว่าจะหลอกคุยกับมิจฉาชีพเพื่อให้เป็นอุทาหรณ์เอาไว้


          อย่างไรก็ดี มิจฉาชีพยังคงไม่หยุด ที่จะสอบถามว่าปลายสายเกี่ยวกับการเปิดบัญชีกับบุคคลอื่นหรือไม่ จนลูกชายต้องเบรกว่า น้อง ๆ เอาแบบนี้คือ อันนี้เบอร์แม่ แล้วแม่ตายไปตั้งแต่ 4 พฤศจิกายน แล้ว อันนี้ยกเลิกเบอร์ได้เลย แม่เราเสียไปแล้ว ซึ่งมิจฉาชีพก็ดูจะน้ำเสียงเปลี่ยนไป ก่อนจะพูดว่า ขอโทษด้วยนะคะ แล้ววางสายไป

          ในขณะที่บางคนก็ยืนยันว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีข้อมูลหลุดรั่วไหล โทร. หาคนที่ตายไปแล้ว บางคนคุณพ่อเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2564 ยังมีคนโทร. มาเบอร์นี้ บางคนคุณพ่อเสียไปแล้ว 2 ปี ยังมีมิจฉาชีพโทร. กลับมา เลยสวนไปว่า ฝากถามหน่อยว่าของที่ทำบุญไปให้ได้รับเปล่า อาหารถูกปากเปล่า จนมิจฉาชีพด่าหยาบกลับมา ซึ่งทั้ง 2 กรณีนี้ มีจุดตรงกันคือ ให้เบอร์มือถือไว้แค่กับสถานพยาบาลเท่านั้น