ปริศนาคดีฆาตกรรมดัง เศรษฐีแต่งอดีตสาว AV ไม่กี่เดือนชะตาขาด เมียอ้างไม่เคยมีเซ็กส์

          ปริศนาคดีฆาตกรรมชื่อดังในญี่ปุ่น เศรษฐีแต่งงานอดีตสาว AV ไม่กี่เดือนชะตาขาด เมียถูกตั้งข้อหาวางยา อ้างไม่เคยมีเซ็กส์


          เผยเรื่องราวคดีความที่เป็นประเด็นโด่งดังในประเทศญี่ปุ่น เกี่ยวกับกรณีการเสียชีวิตของ โคสุเกะ โนซากิ เศรษฐีชายวัย 77 ปี หรือที่รู้จักในชื่อว่า ดอน ฮวน แห่งคิชู (Don Juan of Kishu) ภายหลังจากถูกพบเป็นศพเมื่อ 6 ปีก่อน ซึ่งต้องสงสัยว่าถูกวางยา โดยพบสารกระตุ้นจำนวนมากในร่างกาย เป็นเหตุให้ ซากิ ซูโดะ ภรรยาวัย 28 ปี ของเขาในขณะนั้น ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรม โดยอัยการได้ร้องขอให้จำคุกตลอดชีวิต

วันเกิดเหตุ

          ในเดือนพฤษภาคม 2561 โนซากิ ซึ่งเป็นประธานบริษัทแห่งหนึ่งในเมืองทานาเบะ จังหวัดวาคายามะ ถูกพบว่าเสียชีวิตที่บ้านของเขาในสภาพเปลือยเปล่า ภายหลังจากมีการสอบสวนพบสารกระตุ้นในร่างกาย ซูโดะภรรยาของเขาในขณะนั้น ซึ่งอดีตเคยเป็นนักแสดง AV และเพิ่งแต่งงานกับเขาได้เพียง 3 เดือน ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้วางยาฆาตกรรมสามี รวมถึงกระทำอาชญากรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เธอจึงตกเป็นจำเลยในคดีนี้นับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา จนกระทั่งศาลได้เริ่มต้นการพิจารณาคดี

คำร้องของอัยการ

          เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ในการพิจารณาคดีที่ศาลแขวงวาคายามะ อัยการกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุการณ์ จำเลยได้ค้นหาคีย์เวิร์ดบนอินเทอร์เน็ตคำว่า "อาชญากรรมที่สมบูรณ์แบบ'' และ "การใช้ยาเกินขนาดเพื่อกระตุ้น'' ทั้งนี้ในวันที่เกิดเหตุ โนซากิผู้ตายได้อยู่ที่บ้านกับเธอเพียงตามลำพัง ไม่มีบุคคลอยู่ด้วย ดังนั้นจำเลยจึงเป็นคนเดียวที่สามารถให้ยากระตุ้นได้

          ในแถลงการณ์ของอัยการ ระบุว่า "แรงจูงใจในการฆ่าของเธอคือมรดกของเขา เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่จะหย่าร้าง โดยโนซากิได้บอกกับคนรอบข้างว่าเขาต้องการหย่า จำเลยจึงมีแรงจูงใจที่จะฆ่าเขาเพื่อรับมรดกของเขา ซึ่งเป็นการกระทำที่เลวร้ายมาก มีการวางแผนไว้อย่างดี และเห็นได้ชัดว่าจำเลยไม่มีวี่แววของความสำนึกผิด ในขณะที่กำลังหาข้อแก้ตัว"  

          ทางอัยการได้เรียกร้องโทษจำคุกตลอดชีวิต โดยกล่าวว่า "หลักฐานที่มีอยู่ทั้งหมดเพียงพอที่จะพิสูจน์ได้แล้วว่านี่คือคดีฆาตกรรมและจำเลยเป็นผู้กระทำความผิด"

การโต้แย้ง

          ซูโดะ ฝ่ายจำเลยอ้างว่า เธอไม่ได้ตั้งใจซื้อยากระตุ้นมาเพื่อวางยาฆ่าเขา แต่โนซากิเป็นคนขอให้เธอช่วยซื้อยาดังกล่าวให้ เธอยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง โดยกล่าวว่า "มีความเป็นไปได้ที่โนซากิจะใช้สารกระตุ้นดังกล่าวด้วยตัวเอง" ฝ่ายโจทก์ไม่มีหลักฐานที่พิสูจน์ให้เห็นได้ชัดเจนว่า ซูโดะเป็นผู้ให้สารกระตุ้นดังกล่าวแก่ผู้ตาย

          ทั้งนี้ ซูโดะยังอ้างว่า ผู้ตายพูดคำว่า "หย่าร้าง'' มาระยะหนึ่งแล้ว แต่ไม่ได้ดำเนินการใด ๆ เธอไม่เคยปกปิดความจริงที่ว่าเธอต้องการมรดก แต่เธอไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงิน เพราะเธอได้รับเงินจากเขาทุกเดือน เดือนละ 1 ล้านเยน หรือราว 2.2 แสนบาท (ตามอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน) ดังนั้น เธอจึงไม่มีแรงจูงใจในการฆาตกรรมโนซากิ ส่วนเรื่องการค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวกับการฆาตกรรมดังกล่าวในอินเทอร์เน็ตนั้น เธออ้างว่าไม่ได้ทำ

เปิดเผยความลับเรื่องเซ็กส์

          ซูโดะได้เปิดเผยพฤติกรรมทางเพศของโนซากิต่อศาล โดยเธอกล่าวว่า การแต่งงานของทั้งคู่เป็นการแต่งงานเพื่อเงิน ดังนั้นเธอจึงปฏิเสธที่จะมีเพศสัมพันธ์กับผู้ตาย โดยจะใช้วิธีสวมถุงมือยางและสำเร็จความใคร่ให้เท่านั้น

          ซูโดะอธิบายว่า ความสัมพันธ์ครั้งนี้เป็นชีวิตคู่ที่ "ไร้ความรัก" ในคืนแต่งงาน โนซากิขอมีเซ็กส์กับเธอ แต่เธอปฏิเสธ สุดท้ายเธอจึงสวมถุงมือยางและสำเร็จความใคร่ให้เขา หลังจากนั้นทุกครั้งที่โนซากิมีความต้องการทางเพศ เธอจะใช้วิธีเดิมเช่นนี้ เธอยังเน้นย้ำด้วยว่า การสัมผัสทางกายระหว่างทั้งสองมีจำกัดมาก

          ทั้งนี้ ระหว่างการพิจารณาคดี อัยการได้ชี้ให้เห็นว่า ซูโดะเคยแสดงหนังโป๊และพยายามลบประวัติของเธอ ซึ่งทางซูโดะได้โต้กลับว่า เธอไม่สนใจว่าใครจะรู้ว่าเธอเคยแสดงหนังผู้ใหญ่ อีกทั้งยังวิพากษ์วิจารณ์ตำหนิผู้ตายว่า "โนซากิมีสองมาตรฐาน เขามีทัศนคติเหยียดหยามคนที่ค้าบริการทางเพศ แต่เขากลับใช้เงินไปกับเรื่องเซ็กส์บ่อยครั้ง"

          ขณะนี้การพิจารณาคดีทั้งหมดเสร็จสิ้นแล้ว และคำตัดสินจะมีขึ้นในวันที่ 12 ธันวาคม นี้

ขอบคุณข้อมูลจาก ETtoday, Yahoo Japan, NHK