ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้่อหา
วันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 คุณสมาชิกหมายเลข 7688024 เว็บไซต์พันทิปดอทคอม ตั้งกระทู้หัวข้อ "หัวหน้างานพิมพ์มาแบบนี้ หมายความว่ายังไงคะ ?" ปัญหาถูกหัวหน้าจับผิดว่าเตรียมกลับบ้านก่อนเวลาเลิกงาน โดยเล่าว่า เธอนั้นเป็นสาวออฟฟิศคนหนึ่งที่เพิ่งเข้ามาทำงานในบริษัทแถวชานเมือง บริษัทนี้เป็นบริษัทของคนเกาหลี จะมีกฎเล็ก ๆ ว่า ให้เข้างานก่อนเวลา 5 นาที และให้เลิกหลังเวลางาน 5 นาที ปกติก็ก่อนเวลาตลอด แต่เวลาเลิกงานแล้วออกตรงเวลา เพราะเราคิดว่ามันหมดงานแล้ว และมองว่า หากอยากให้เข้าก่อนเวลาและออกหลังเวลาเลิก ควรจะแจ้งมาก่อนตั้งแต่สัมภาษณ์งาน
วันที่เกิดเรื่อง ตั้งแต่ 13.00 - 16.30 น. เธอทำเราทำงานไม่ได้หยุดเลย จนพอเลย 16.30 น. ไปเธอก็ทำงานเสร็จ จึงเก็บแฟ้มทุกอย่างไว้ด้านหลัง แล้วก็หยิบกระเป๋าตัวเอง หยิบเครื่องสำอาง หยิบแปรงสีฟัน จะลงไปทำธุระจะลงไปทำธุระส่วนตัวที่ชั้นสอง พอเราแปรงฟันได้สักพักก็มีมีพี่คนหนึ่งโทร. มา ถามว่า เราไปไหน หัวหน้าดูกล้องแล้วไม่เห็น พอบอกว่าอยู่ห้องน้ำ ก็ได้รู้ว่า หัวหน้าเขาบอกเลขาเขาว่า เห็นเราเก็บกระเป๋าเตรียมกลับบ้านตั้งแต่ 16.30 น. เธองงมากว่าต้องดูกล้องตลอดเวลาเลยเหรอ จนพอเวลาผ่านไปเลิกงาน เลขาหัวหน้าพิมพ์มาแบบนี้
เลขาหัวหน้า : เตรียมตัวกลับบ้านแล้วเหรอ
พนักงาน : มาเข้าห้องน้ำนะคะ เก็บแฟ้มงานจ้า
เลขาหัวหน้า : เตรียมตัวกลับตั้งแต่ก่อน 5 โมง มันยังอยู่ในเวลางานหรือเปล่า อยู่ในระหว่างทดลองงาน พี่กับนายประเมินเราอยู่ คือรู้ใช่ไหมคะ ?
พนักงาน : ไม่ได้เตรียมตัวนะคะพี่ หนูหยิบแปรงสีฟัน ยาสีฟัน แล้วลงไปห้องน้ำนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก pantip
เจ้าของเรื่องราว ระบุว่า คืองงค่ะ เราทำอะไรผิดคะ ทุกคนช่วยอธิบายที แล้วข้อความที่พิมพ์มา ไม่ได้พิมพ์ส่วนตัวนะคะ พิมพ์ลงไลน์กลุ่มที่มีพนักงานคนอื่น เราก็เลยไม่โอเคมาก ๆ ค่ะ คำพูดเหมือนประชดประชันด้วย ปกติเราเลิกงานเวลา 17.30 น. ที่เราเก็บของไม่ได้เตรียมตัวกลับบ้าน พอดีเห็นกระเป๋ามันวางเลอะเทอะก็เลยเคลียร์โต๊ะดูสะอาดห ลายท่านอาจจะเข้าใจผิดว่าเราเตรียมตัวจะกลับบ้าน แล้ว ปกติเราก็ไม่ได้ทำแบบนี้ทุกวัน ที่ไปเข้าห้องน้ำเพราะจะไปปลดทุกข์ด้วย ทำอะไรเสร็จก็รีบขึ้นมาทำงานต่อเลย
หลังเรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ไป ปรากฏว่ามีผู้คนแสดงความเห็นหลากหลายมุมมอง เช่น ถ้าเป็นเคสที่เกิดกับตัวเอง คงจะเลือกทำธุระหลังเลิกงานดีกว่า บ้างก็มองว่า หัวหน้ากับเจ้านายก็จู้จี้เกินไป แต่ก็อย่างว่าบริษัทเขา กฎของเขา บ้างก็สอบถามว่า ต้องลองคิดดูว่าหากทำต่อไปจะโอเคไหม ถ้าไม่โอเคก็แยกย้าย หางานใหม่ น่าจะสบายใจทั้งสองฝ่าย
นอกจากนี้ หลายคนยังให้มุมมองว่า ประเด็นนี้มันเป็นเรื่องของวัฒนธรรมองค์กร อยู่ที่เราว่าจะรับได้หรือไม่ ส่วนเคสนี้ก็มองว่าทำผิดเองด้วย เพราะยังอยู่ในเวลางาน แต่ใช้เวลากับเรื่องส่วนตัว แปรงฟัน แต่งหน้า แม้เราจะยืนยันว่าไม่ได้ใช้เวลางานทำเรื่องส่วนตัว แต่ในมุมมองหัวหน้าและคนอื่นอาจจะไม่ได้มองเช่นนั้น เป็นต้น
ล่าสุด เจ้าของเรื่องราวระบุว่า สรุปแล้ววันจันทร์เธอจะเริ่มต้นใหม่ จะลองปรับดู แต่ถ้ายังจับผิดกันอยู่อีกก็ไม่ไหวแล้วจริง ๆ ขอบคุณทุกคนมากเลยนะคะ