ภาพจาก เฟซบุ๊ก หนุ่ม กรรชัย
จากกรณี หนุ่ม กรรชัย โพสต์ข้อความว่า "ตบทรัพย์กันเก่งเนอะ ล่าสุด มีคลิปเสียง ศิลปิน นักแสดงชื่อดัง ร่วมกับ นักร้องสาวนักตบ อ้าง 'กรรชัย' ไฟเขียว ออก โหนกระแส เรียก 20 ล้าน รอฟังข่าวเที่ยงวัน" ก่อนจะมีการเปิดคลิปเสียงดังกล่าวในรายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์ วันที่ 12 พฤศจิกายน 2567
ทั้งนี้หลายคนโยงว่า ศิลปิน นักแสดงในคลิปดังกล่าว น่าจะเป็น ฟิล์ม รัฐภูมิ ก่อนที่ฟิล์มจะออกมาแถลงชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้กับสื่อมวลชน ยืนยันว่าในคลิปคือเสียงตนจริง แต่ขอชี้แจงไทม์ไลน์และรายละเอียดเบื้องหลัง
ภาพจาก โหนกระแส [Hone-Krasae] official
โดยฟิล์ม รัฐภูมิ ยืนยันไม่ได้เกี่ยวข้องกับดิไอคอนกรุ๊ป ตนได้รับการติดต่อจ้างทำพีอาร์โปรโมตบริษัท จึงได้มีการพูดคุย แนะนำ ขายงานไป ส่วนตัวเลข 20 ล้าน ก็คืองบพีอาร์ที่เคยตกลงกันก่อนหน้านี้ ไม่ได้ตบทรัพย์หรือขู่กรรโชก ไม่คิดว่าจะถูกอัดเสียงไว้ และสุดท้ายก็ไม่ได้งานนี้ ไม่ได้รับเงินจากอีกฝ่ายแต่อย่างใด สุดท้ายกลับต้องมาเสียเครดิตจากเรื่องนี้
พร้อมกันนี้ ฟิล์ม รัฐภูมิ ยังได้ยกมือไหว้ขอโทษ หนุ่ม กรรชัย ที่เอาชื่อเขาไปอ้างในการจะขายงาน โดยไม่ได้รับอนุญาต สิ่งที่ตำหนิมา ตนจะนำไปปรับปรุงต่อไป
ภาพจาก โหนกระแส [Hone-Krasae] official
- ตนเป็นแค่บริษัทหนึ่งที่เข้าไปรับงาน เขาติดต่อมาจ้างอยากให้ทำพีอาร์โปรโมตดิไอคอน ช่วงเดือน มิ.ย. เขาก็เล่าว่าธุรกิจทำยังไง ตนฟังด้านเดียว ก็มองว่าไม่น่าทำยาก ก็ให้คำแนะนำไป มองว่าที่เขาออกรายการก็ดีอยู่แล้ว
- เดือน ต.ค. เขาบอกว่าไปเคาะงบมาแล้ว 20 ล้าน วางมาร์เก็ตติ้งแพลนเสร็จแล้ว ตนเป็นโปรดักชั่นที่รับงานมาจากคนกลาง
- คลิปเสียงเกิดขึ้นตอนเช้าวันนึง เขาบอกว่าเคาะตัวเลขมาแล้ว ว่าบริษัทใหญ่ขนาดนี้อยากเคาะงบโปรโมต 20 ล้าน ตนก็บอกจะกลับไปทำการบ้าน ว่า 20 ล้าน ทำอะไรได้บ้าง
- ต่อมาตอนกลางคืน คนกลางบอกบอสปัญมาหา คือตนไม่รู้จักมาก่อน ก็ตกใจว่าทำไม เขาคุยเรื่องเดิม ๆ พยายามถามเราว่าสรุปเท่าไร ทั้งที่เขารู้อยู่แล้วว่าเท่าไร ด้วยความเรารู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็บอกว่า 20 ล้าน ก็คุณเคาะแล้วว่า 20 ล้าน
ภาพจาก โหนกระแส [Hone-Krasae] official
- คนกลางก็บอกพวกคุณตกลงกันแล้วว่าจ่ายเงินสด ตนก็พูดตามที่เขาบอกทุกอย่าง แต่ในคลิปเสียงอาจดูว่าตนเป็นคนพูด แต่จริง ๆ แล้วผมไม่ใช่คนพูด ทั้งหมดมีแค่นี้ ตนก็พรีเซ็นต์งานไป
- ที่ตนพรีเซ็นต์ ก็อยากขอโทษพี่หนุ่มจริง ๆ ที่ตนดันเอาชื่อเขาไปอ้าง ในการจะขายงาน ไปบอกว่าเดี๋ยวจะไปออกรายการได้ ที่ตนพูดคือวันนั้นฟังแล้วไม่รู้สึกว่าธุรกิจเขามีสอดแทรกไส้ในอะไร
- ตนรู้สึกว่าธุรกิจเขาก็แค่ขายของ เขาบอกเขาถูกรังแก ตนก็เชื่อ อยากช่วย ตัวคุณก็ต้องมมาเคลียร์ในรายการ ตนมีเจตนาแค่นี้
- ตนไม่ได้เป็นคนวางแผน ไปสั่งใครได้ว่าตั้งไปออกรายการไหน แค่เป็นผู้ชี้แนะแนวทางทำพีอาร์ ว่าควรมาออกรายการนี้ไหม เพราะดังมาก เป็นที่รู้จัก จะผิดหรือถูกประชาชนจะตัดสินคุณเอง
ภาพจาก โหนกระแส [Hone-Krasae] official
- ส่วนกับคนกลางเขาคุยอะไรมาก่อนตนไม่รับรู้ เป็นแค่บริษัทนึงที่ไปรับงานตัวนี้ แต่จบเรื่องก็ไม่ได้รับงาน ไม่ได้เงินจากที่พรีเซ็นต์ บริษัทและตนเองก็เสียหาย กลายเป็นเสียเครดิต ทั้งที่ตนไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับดิไอคอน แค่เป็นบริษัทที่รับงานจากคนกลางเท่านั้น
- ตนไม่ได้ โทร. หาเขา เขาติดต่อมาผ่านคนกลาง มาถามว่าสิ่งที่เขาจะทำมีขั้นตอนยังไงบ้าง เราก็ไม่ได้เอะใจว่าเขาจะอัดเสียง ก็พูดตามความจริง ทั้งหมดอยู่ในคลิปเสียง ไม่มีสักคำที่ไปขู่กรรโชกหรือตบทรัพย์ ตนไม่ได้งาน แล้วยังเสียชื่อเสียงอีก เลยเอาความบริสุทธิ์ใจมาบอกทุกคน
- ประเด็นตัดต่อคือ มองว่าไม่มีใครฟังไหว 29 นาที เรื่องเกิดจากผู้หญิง 2 คน พูดหัวข้อต่าง ๆ มาให้ ตนก็ตอบทีละคำถาม
- อยากขอโทษพี่หนุ่มจริง ๆ เมื่อวานเขาก็ โทร. มาหาตนแล้ว ก็ว่าผม ขอโทษพี่หนุ่มจริง ๆ ขอโทษมาก ๆ เลย ที่ไปขายงานโดยไม่ได้ขออนุญาตพี่หนุ่มก่อน สิ่งที่ด่าผมมาเมื่อวานก็จะนำไปปรับปรุง วันนี้เขาด่าตนในรายการอีก เหมือนพี่สอนน้องคนนึง ก็ยินดีรับฟังทุกเรื่อง
ภาพจาก โหนกระแส [Hone-Krasae] official
- ผมไม่ได้มีเจตนาไปช่วยโจรแม้แต่นิดเดียว ไม่มีเจตนาช่วยผู้กระทำผิด ตนแค่ได้รับมุมมองจากคนกลาง เรื่องทั้งหมดเกิดก่อนจะไปออกรายการพี่หนุ่ม ไม่ใช่ตนไปช่วยคนที่ทำผิดแล้ว เราทุกคนก็เพิ่งรู้ว่าธุรกิจเขาสอดแทรกอะไร หลังจากหน่วยงานเริ่มเข้าไปตรวจสอบและเปิดโปง
- ตนก็เพิ่งรู้พร้อมกับประชาชน และเป็นคนนึงที่ไปอยู่ข้างประชาชนในการไปออกรายการพี่หนุ่ม และบอกว่าธุรกิจเขาดูแปลก ๆ
- อยากให้ทุกคนเห็นใจในมุมของตนว่า ผมก็แค่อยากไปรับงาน แค่นั้นเอง ส่วนเรื่องตัดต่อคลิป เข้าใจทางรายการว่าต้องให้มันกระชับ
- เข้าใจพี่หนุ่ม เป็นตนก็โกรธ จู่ ๆ ได้ยินเสียงแบบนั้น เมื่อวานเขาก็ โทร. มาต่อว่าตนเยอะมาก ก็น้อมรับว่ามันก็มันปากไปหน่อย มันก็อยากได้งาน ขายงานเต็มที่ ว่าไปออกรายการกัน เพราะตอนนั้นเราคิดว่าเขาถูก เลยอยากให้เขาดีแคลร์ตัวเอง เพราะเรารับฟังมุมมองด้านเดียว
- เดี๋ยวจะเอาเรื่องของตนเข้าสู่กระบวนการทางฝั่งทนายเหมือนกัน ต้องปกป้องตัวเอง เพราะไม่ได้เป็นผู้กระทำผิดอะไร ไม่ได้มีเจตนา ไปรับรู้ หรือได้รับเงินจากคุณ วันนี้บริษัทมาเสีย เพราะไปคุยแค่วันนั้น ตนก็พลาดที่ว่าจะไปรู้ได้ยังไงว่าอยู่ ๆ เขาอัดเสียง
- ต่อไปเวลาคุยกับลูกค้า ตนต้องให้ทนายคุยแทนเหรอ ตนไม่รู้คนกลางไปคุยอะไร คนมาดีลงานไปคุยอะไร ใครทำอะไรกัน ตนแค่เล่าในมุมว่าการที่คุณอยากโปรโมตบริษัทคุณต้องทำแบบนี้ มีวิธีการแบบนี้
ภาพจาก เฟซบุ๊ก หนุ่ม กรรชัย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก หนุ่ม กรรชัย