ภาพจาก Instagram stevenguo.io
ในขณะที่ผู้คนมากมายมุ่งมั่นทำการผลเรียนดี ๆ เพื่อเป็นเครื่องปูทางสู่ความสำเร็จในอนาคต หนุ่มคนหนึ่งกลับกลายเป็นเครื่องพิสูจน์ ว่าผลการเรียนนั้นไม่ใช่ทุกอย่าง แม้เขาจะมีเกรดเฉลี่ยในมหาวิทยาลัยเพียง 2.7 แต่ขณะนี้เขาได้กลายมาเป็นเจ้าของธุรกิจออนไลน์มากมาย และหาเงินได้ปีละ 254,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8.8 ล้านบาท) ด้วยวัยเพียง 24 ปีเท่านั้น
รายงานจากเว็บไซต์ Sinchew เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 เปิดเผยว่า สตีเวน เกา (Steven Guo) คือหนุ่มอเมริกันเชื้อสายจีน พ่อแม่ของเขามาจากประเทศจีน ขณะที่ตัวเขาอาศัยอยู่ทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ มาตั้งแต่เล็ก ๆ จนเติบโตและเข้าศึกษาต่อด้านระบบนิเวศธุรกิจ ที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เออร์ไวน์ (UCI)
ในขณะที่สตีเวนโฟกัสไปที่การเรียนรู้ความเป็นผู้ประกอบการ ผลการเรียนของเขากลับไม่ค่อยดีนัก มีเกรดเฉลี่ยแค่ 2.7 สตีเวนรู้ตัวว่าเขาไม่น่าหางานที่มารายได้สูงทำได้ ดังนั้นจึงต้องผลักดันตัวเองให้สำเร็จในการทำธุรกิจแทน
ภาพจาก Instagram stevenguo.io
หาเงินได้ตั้งแต่ยังเล็ก หัวธุรกิจเริ่มมา
ความมุ่นมั่นในการทำธุรกิจของชายหนุ่ม ไม่ได้เพิ่งเกิดในช่วงเวลาสั้น ๆ ระหว่างอยู่ในมหาวิทยาลัย ที่จริงแล้วทุกอย่างเริ่มต้นตอนที่เขาอายุ 12 ปี ในตอนนั้นสตีเวนได้ทำโปรเจกต์เล็ก ๆ เป็นของตัวเองในช่วงฤดูร้อน และสามารถทำเงินได้ถึง 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 348,000 บาท)
เขาเล่าว่าตอนที่อายุ 12 ปี เขาคลั่งเกม Minecraft มาก ๆ และอยากเปิดเซิร์ฟเวอร์ของตัวเอง เพื่อให้เขากับเพื่อนเล่นด้วยกันได้ กลายเป็นว่าคนอื่น ๆ เองก็สนใจการเปิดเซิร์ฟเวอร์เช่นกัน โดยมีคนเสนอเงินให้สตีเวน 50 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,700 บาท)
ภาพจาก Instagram stevenguo.io
เงินก้อนนั้นทำให้สตีเวนยินดีมาก เขาไม่รู้มาก่อนว่าสามารถหาเงินจากอินเทอร์เน็ตได้ จากนั้นเขาก็เอาแต่สร้างเซิร์ฟเวอร์ในเกม ตลอดจนหาไอเทมในเกมมาขาย จนเมื่อฤดูร้อนนั้นจบลง เขาก็ได้เงินเข้ากระเป๋ามาถึง 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ
ด้วยเงินก้อนนี้ สตีเวนพยายามเริ่มต้นทำบริษัทพัฒนาเกมของตัวเอง แต่โชคร้ายที่ล้มเหลว เงินก้อนแรกหายไปจนหมด แต่เขาก็ได้เรียนรู้บทเรียนล้ำค้า ว่าการตลาดมีความสำคัญอย่างมากไม่ว่าจะกับธุรกิจใด ๆ ก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นยังทำให้เขาหลงใหลในการเรียนรู้เรื่องธุรกิจด้วย
ภาพจาก Instagram stevenguo.io
กระทั่งในปี 2565 เมื่อสตีเวนเรียนจบเขาก็เริ่มทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซหลายอย่าง ตั้งแต่เปิดร้านขายผลไม้ออนไลน์ ขายสินค้าศิลปินเกาหลี และขายผ้าคลุมรถเกรดพรีเมียมแก่เจ้าของรถหรู นอกจากนี้ในปีเดียวกัน เขายังปล่อยขายหนึ่งในแบรนด์อัญมณีที่ตัวเองก่อตั้งขึ้นอย่าง Impulse Modern จนสร้างรายได้มากกว่า 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 69 ล้านบาท) ในปีนั้น
ต่อมาเขานำเงินที่ได้มาลงทุนกับธุรกิจ Manifest Five เป็นห้องปฏิบัติการทางธุรกิจ ซึ่งจะร่วมลงทุนและเพาะบ่มแบรนด์ของลูกค้า 8-9 เจ้า ในด้านสุขภาพ ความงาม อุตสาหกรรมยานยนต์ และอื่น ๆ โดยจะช่วยดูแลและร่วมปฏิบัติการให้ธุรกิจนั้นยิ่งเติบโต
ภายใต้ธุรกิจที่มี ขณะนี้สตีเวนมีพนักงาน 19 คนในทีม จากทั้งสหรัฐ ฟิลิปปินส์ สหราชอาณาจักร และอินเดีย โดยเขายอมรับว่าข้อดีของการทำธุรกิจออนไลน์ คือเขาสามารถจ้างพนักงานที่อยู่ไกล และหาทีมงานที่ยอดเยี่ยมจากที่ไหนก็ได้บนโลก
ภาพจาก Instagram stevenguo.io
นอกเหนือจากการทำธุรกิจให้เติบโต สตีเวนซึ่งไม่อยากติดอยู่ใต้กรอบการทำงานแบบพนักงานประจำ เลือกจะย้ายไปอาศัยอยู่ที่บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย พร้อมกับเพื่อน 2 คนซึ่งเป็นทั้งเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยและเป็นพาร์ทเนอร์ธุรกิจ ทั้งหมดเช่าวิลล่าหลังเล็ก ๆ อยู่ด้วยกัน และตามหาสมดุลในการใช้ชีวิตและการทำงานที่ดีกว่า
โดยสตีเวน จำกัดเวลาการทำงานของตัวเองเพียงวันละ 6 ชั่วโมง ในวันจันทร์-ศุกร์ ซึ่งใน 1 สัปดาห์เขาจะทำงานเพียง 30 ชั่วโมงเท่านั้น สำหรับเวลาที่เหลือก็คือการออกไปผ่อนคลายกับการเล่นโต้คลื่น และทำเรื่องอื่น ๆ ซึ่งเขาคาดว่าในปีนี้ตัวเองจะทำรายได้ประมาณ 254,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8.8 ล้านบาท)
ภาพจาก Instagram stevenguo.io
ทั้งนี้ สตีเวนเล่าว่า เขาเติบโตมาโดยมีแม่เป็นคนเลี้ยงหลัก ๆ ตอนอายุ 7 ขวบ แม่เคยพาเขาเดินทางจากจีนไปแคนาดา ซึ่งเมื่อได้เห็นแม่ทำงานหนักมากและทำหลายงาน เขาจึงตั้งเป้าที่จะทำงานหนักเพื่อหาเงินมาดูแลครอบครัว โดยแม่คือแรงบันดาลใจใหญ่สุดของเขา และตอนนี้ความภูมิใจมากที่สุดของเขา ก็คือการจ่ายเงินพาแม่ไปเที่ยวพักผ่อนที่ฮาวายได้
ขอบคุณข้อมูลจาก Sinchew, CNBC