พลเมืองดีเจอลูกสุนัขจรข้างทาง สงสารจะเก็บมาเลี้ยง พาไปคลินิก โดนสัตวแพทย์ห้ามแรง บอกนี่มันไม่ใช่หมา อ้าว...
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Alliance of Oregon
เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 เว็บไซต์ Hk01 และ The Dodo เผยเรื่องราวว่า
เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
มีคู่สามี-ภรรยาคู่หนึ่งได้ไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะวิลลาเมตต์
ในเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน ของสหรัฐอเมริกา แล้วบังเอิญไปเจอกับ
"ลูกสุนัข" จรจัดตัวหนึ่ง ขนเป็นสีขาวแต่สกปรกเปรอะเปื้อน
กำลังกัดเล่นกับถุงพลาสติกอยู่ในสภาพน่าสงสาร
ริชาร์ด เมลลิง ผู้เป็นสามี เผยว่า ตอนที่เห็นลุกสุนัขตัวนี้ดูเหมือนว่ามันกำลังมีความสุขในโลกของมัน แต่ในขณะเดียวกันมันก็ดูน่าเวทนา เขาและภรรยาไม่เคยเห็นสุนัขที่มีลักษณะเช่นนี้มาก่อน ด้วยความเอ็นดูและกังวลว่ามันจะเป็นอันตราย พวกเขาจึงตัดสินใจว่าจะพามันกลับไปเลี้ยงดูแลที่บ้าน
แต่ก่อนที่จะพากลับบ้าน ริชาร์ดและภรรยาได้พาลูกสุนัขจรจัดตัวนี้ไปพบสัตวแพทย์ที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Bird Alliance of Oregon เพื่อจะได้ตรวจสุขภาพร่างกายและเช็กว่ามีโรคหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เมื่อทางเจ้าหน้าที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ตรวจสอบดูอย่างละเอียด ผลที่ออกมาทำให้ทางคู่สามีภรรยาต้องประหลาดใจไม่น้อย
"คุณเลี้ยงมันไม่ได้ เพราะมันไม่ใช่สุนัข" เจ้าหน้าที่แพทย์ กล่าว
โดยสุนัขจิ้งจอกอาร์กติกที่พบนี้เป็นเพศเมีย มีน้ำหนักเพียง 2.9 กิโลกรัม แม้ว่ามันจะมีภาวะขาดน้ำอย่างรุนแรง แต่ก็ไม่พบว่ามีปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงอื่น ๆ
อย่างไรก็ตาม จุดที่พบเจ้าสุนัขจิ้งจอกอาร์กติกตัวนี้ อยู่ห่างจากถิ่นที่อยู่ของมันไกลมากกว่าหลายพันไมล์ อีกทั้งพฤติกรรมของมันยังไม่ตื่นกลัวและเข้าหาคน ทางเจ้าหน้าที่จึงเชื่อว่ามันน่าจะไม่ได้อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ แต่เคยมีคนดูแล โดยคาดว่า มันน่าจะหลุดหรือหนีออกมาจากกรงขัง หรือไม่ก็ถูกทิ้งโดยคนที่จับมันมาเลี้ยงอย่างผิดกฎหมาย
"สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือ สัตว์ป่าอย่างสุนัขจิ้งจอกอาร์กติกไม่ควรเลี้ยงไว้เป็นสัตว์เลี้ยง และการทำเช่นนั้นอาจเป็นอันตรายต่อทั้งมนุษย์และสัตว์ ดังนั้น เราจึงไม่แนะนำให้พาสิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้จักที่ได้รับการช่วยเหลือกลับบ้าน เพราะคุณไม่สามารถแน่ใจได้ว่าคุณกำลังช่วยตัวอะไรอยู่" เจ้าหน้าที่ศูนย์ Bird Alliance of Oregon กล่าว
ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้คอยดูแลให้อาหาร น้ำ และอาหารเสริม ทำให้เจ้าสุนัขจิ้งจอกอาร์กติกมีสุขภาพแข็งแรงและเติบโตเป็นปกติ ในระหว่างนี้ก็ได้ติดต่อประสานงานกับทางองค์กรพิทักษ์สัตว์ป่าในพื้นที่ เพื่อให้เข้ามาดำเนินการช่วยเหลือหาที่อยู่อาศัยอย่างถาวรให้กับมันต่อไป