ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
กลายเป็นข่าวใหญ่ทุกหน้าสื่อ กรณี ทนายตั้ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด และภรรยา ถูกตำรวจจับกุมตัว หลังศาลออกหมายจับคดีหลอกลวงเงิน น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ มาดามอ้อย ในข้อหาฉ้อโกง, ฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงินฯ โดยจับกุมได้ที่ จ.ฉะเชิงเทรา และมีกระแสข่าวว่าทนายคนดังกำลังจะหนีไปที่ชายแดนแต่ถูกรวบตัวก่อนนั้น
อ่านข่าว : ทนายตั้ม ษิทรา - เมีย เกมแล้ว หลังถูกออกหมายจับ รวบขณะไปสระแก้ว พื้นที่ติดชายแดน
สำหรับประเด็นที่ ทนายตั้ม ถูก มาดามอ้อย เดินหน้าเอาผิด มีดังนี้
ภาพจาก CSI LA
มาดามอ้อย ให้เงิน ทนายตั้ม 71 ล้าน ลงทุนแพลตฟอร์มหวย แต่กลับอ้างให้โดยเสน่หา
- มาดามอ้อย แจ้งความ ทนายตั้ม เรื่องเงิน 71 ล้าน ซึ่ง ทนายตั้ม ชี้แจงว่าเงินจำนวนนี้ได้มาโดยเสน่หา ส่วน มาดามอ้อย ปฏิเสธและยืนยันว่าไม่เคยให้เงินโดยเสน่หา แต่เงินที่ให้ไปเป็นการโอนเพื่อการลงทุนในแพลตฟอร์มลอตเตอรี่ออนไลน์ ซึ่งถูกโน้มน้าวให้เชื่อถือทั้งการอ้างชื่อนักการเมือง รวมถึงพาไปเจอรัฐมนตรีรายหนึ่งที่ฮ่องกง โดย มาดามอ้อย ชี้แจงว่า หากเป็นการให้เงินโดยเสน่หาจริง ทำไมถึงมีการพูดเรื่องแอปฯ นาคี และควรให้เป็นเงินสดมากกว่า ไม่ใช่การโอนแบบนี้
มาดามอ้อย ให้เงินคนสนิท ทนายตั้ม 39 ล้าน จ้างศิลปินจากจีน กลายเป็นโดนสแกมเมอร์
- มาดามอ้อย ถูกสแกมเมอร์อ้างตัวว่าเป็น เฉิน คุน ดาราชาวจีน ทักข้อความมาตีสนิท ต่อมา มาดามอ้อย อยากให้ดาราจีนรายนี้มาออกงานที่ไทย ทางสแกมเมอร์ก็ขอให้มาดามอ้อยโอนเงินมาเป็นสกุลเงินดิจิทัล บิตคอยน์ จำนวน 2 ล้านบาท มาดามอ้อยจึงปรึกษาทนายตั้ม และได้รับการแนะนำให้รู้จักกับ นายนุ คนสนิทของทนายตั้ม ซึ่งนายนุถนัดเรื่องคริปโต เป็นคนดำเนินการให้
ต่อมา นายนุ อ้างว่าบัญชีที่ทำเรื่องโอนไปให้สแกมเมอร์เกิดปัญหา เงินโดนแฮกหายไปหลายสิบล้าน และถูกระงับบัญชี ไม่สามารถเปิดได้อีก ทางนายนุได้มีการไปลงบันทึกประจำวันไว้ ก่อนจะมาเปิดฉากทะเลาะกันเรื่องเงินหายจากบัญชีต่อหน้ามาดามอ้อย จนมาดามอ้อยรู้สึกผิด และโอนเงินให้ 39 ล้าน ชดใช้เงินที่โดนแฮกไป เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2566
ภาพจาก CSI LA
มาดามอ้อย ฝากซื้อรถเบนซ์ แต่โดนทนายดังเอาไปใช้ จับได้อาจมีค่าส่วนต่างจากราคาเต็ม
มาดามอ้อย ฝากให้ ทนายตั้ม ดำเนินการซื้อรถเบนซ์ G400 AMG พรีเมียม ราคา 13 ล้านบาท แต่เวลาผ่านไปมาดามอ้อยกลับยังไม่ได้รถ ต่อมา คุณน้อย เลขาฯ ติดตามทวงเล่มทะเบียนรถยนต์ที่ได้จ่ายเงินไปเป็นปีแล้ว พบว่ามีการโอนชำระเงินมัดจำไปที่ศูนย์ 500,000 บาท แต่ไม่ได้ใบเสร็จใด ๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ศูนย์แจ้งว่า รถยนต์ยังชำระเงินไม่หมด ทำให้ทนายตั้มไม่พอใจและโทร. มาต่อว่าคุณน้อย
ภายหลัง คุณน้อย ได้ตรวจสอบราคากับศูนย์เบนซ์อีกแห่ง พบว่ารถคันที่ซื้อมีราคาเพียง 9 ล้านกว่าบาท จากนั้นทนายตั้มได้ให้ใบเสร็จ ซึ่งไม่ใช่ใบเสร็จตัวจริง โดยระบุราคาที่ 12.9 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์ที่ มาดามอ้อย นั่งรถคันดังกล่าวไปที่พัทยา ปรากฏว่า รปภ. บอกว่ารถคันนี้มีจีนเทาเอามาปล่อยขาย ทะเบียนเดียวกัน เคยมาที่นี่และทำกร่าง ทำให้สงสัยว่าทนายดังเอารถไปให้จีนเทาเช่าด้วยหรือไม่ และสังเกตว่ารถยังแทบไม่ได้ใช้ แต่เลขไมล์พุ่งไป 10,000 กิโลเมตรแล้ว
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
ฝ่าย มาดามอ้อย เคยทวงกุญแจไป ทนายดังอ้างว่ามีดอกเดียว จนกระทั่งมีการยื่นโนติสต์ทวง ซึ่งการติดตามรถคืนต้องไปเอากุญแจรีโมตคืนที่ศาล จ.นนทบุรี โดยทนายตั้มอ้างว่ามีคดีที่นั่น เคสนี้ทำให้มาดามอ้อยเริ่มสงสัยในตัวทนายตั้ม จนได้ไปเที่ยวฟินแลนด์จึงกลายเป็นจุดแตกหัก
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ทนายตั้มบอกว่า ให้มาดามอ้อยเอาเล่มทะเบียนรถมาดูได้เลยว่ารถเป็นชื่อมาดามอ้อย ไม่ใช่ชื่อไฟแนนซ์ และรถรุ่นนี้ไม่มีหรอกที่ราคาเพียง 8-9 ล้านบาท ทุกคนสามารถสืบราคากันได้ และทนายตั้มก็ไม่ได้อับจนหนทางขนาดนั้นที่ต้องเอารถไปให้จีนเทาเช่า
คดีจ้างออกแบบโรงแรม
- มาดามอ้อย ให้ ทนายตั้ม ดำเนินการเรื่องโรงแรมที่จะเปิด โดยมีการคิดค่าออกแบบโรงแรม 9 ล้านบาท แต่มาดามอ้อยมาทราบภายหลังว่ามูลค่าจริงอยู่ที่ 3.5 ล้านบาท
ภาพจาก CSI LA
ประเด็นอื่น ๆ ที่ ทนายตั้ม โดน มาดามอ้อย เปิดโปง
- มาดามอ้อย เคยให้ ทนายตั้ม เดือนละ 300,000 บาท เป็นค่าดูแลคดีและดำเนินการต่าง ๆ แต่ต่อมาได้เลิกจ่ายแล้วหลังเกิดข้อกังขา พร้อมแฉด้วยว่าบัญชีที่โอนไปกลับไม่ใช่ชื่อทนายตั้ม แต่เป็นญาติทนายตั้ม
- ทนายตั้ม เป็นตัวกลางให้ มาดามอ้อย ซื้อรถบริจาค เช่น รถ Ambulance รถตู้ รถสองแถว แต่จะซื้อเป็นชื่อทนายตั้มก่อนแล้วค่อยโอน
- มาดามอ้อยถูกหว่านล้อมพิจารณาให้รับลูกของทนายตั้มเป็นลูกบุญธรรม แต่ถูกลูกชายคนเล็กของมาดามอ้อยคัดค้านจึงไม่เป็นผล นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวว่า ทนายตั้มแนะนำหลานให้เป็นสะใภ้มาดามอ้อย แต่ไม่สำเร็จ เพราะลูกมาดามอ้อยมีภรรยาแล้ว เป็นต้น
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์