ภาพจาก CHIP SOMODEVILLA /AFP
นับเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ทั่วโลกจับตา สำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่ชาวอเมริกันจะออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งประธานาธิบดี ในวันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน 2567 (ตามเวลาท้องถิ่น) ท่ามกลางการติดตามของผู้คนจากทั่วโลก ว่าใครคือผู้ที่จะได้เป็นผู้นำประเทศมหาอำนาจคนต่อไป รวมถึงทิศทางของนโยบายต่าง ๆ หลังจากนี้ และนี่คือข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการเลือกตั้งสหรัฐฯ
เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ทำยังไง
สำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จะมีขึ้นทุก ๆ 4 ปี โดยหลังจากการเลือกตั้งขั้นต้นเพื่อให้ได้ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคใหญ่ รวมถึงได้ตัวผู้สมัครอิสระ ก็ถึงเวลาที่ชาวอเมริกันจะไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ซึ่งคะแนนจากประชาชนจะยังไม่ใช่การตัดสินผู้ที่ได้รับตำแหน่งผู้ประเทศโดยตรง แต่จะเป็นการลงคะแนนเพื่อเลือก "ผู้เลือกตั้ง" ในรัฐต่าง ๆ ที่มีอยู่ 50 รัฐ
สำหรับคะแนนเสียงของคณะผู้เลือกตั้งในแต่ละรัฐจะมีจำนวนไม่เท่ากัน ขึ้นกับจำนวนประชากรและปัจจัยต่าง ๆ แต่ในบรรดาทั้ง 50 รัฐ จะมีคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งรวมทั้งหมด 538 เสียง ซึ่งผู้ที่จะได้รับตำแหน่งประธานาธิบดี คือผู้ที่ได้รับคะแนนเสียง มากกว่า 270 เสียงขึ้นไป
เนื่องจากผู้ที่ชนะการเลือกตั้งคือผู้สมัครที่ได้รับคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งมากที่สุด ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ว่า ผู้ชนะการเลือกตั้งอาจไม่ใช่ผู้สมัครที่ได้รับคะแนนเสียงสูงสุดจากประชาชนทั่วประเทศ (popular vote) หากไม่สามารถคว้าคะแนนเสียงส่วนใหญ่จากคณะผู้เลือกตั้งได้
ภาพจาก Andrew Harnik / POOL / AFP
เกิดอะไรขึ้นบ้าง ในวันเลือกตั้ง
ผู้มีสิทธิส่วนใหญ่จะไปลงคะแนนเสียงและมีการนับคะแนนเสียง หลายคนอาจลงคะแนนเสียงล่วงหน้าไว้แล้วผ่านระบบลงคะแนนผ่านไปรษณีย์ หรือการลงคะแนนล่วงหน้า
การเลือกตั้งสิ้นสุด-รู้ผลเมื่อไหร่
เวลาปิดหีบนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละรัฐ ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่ที่เวลา 19.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ในวันเลือกตั้ง และด้วยไทม์โซนที่แตกต่างกัน จึงมีบางรัฐที่ถึงเวลาปิดหีบและเริ่มนับคะแนนก่อน ในขณะที่บางรัฐยังมีผู้เดินทางไปใช้สิทธิ์ลงคะแนน ปกติจะทราบผลกันหลังมีการนับผลโหวตเสร็จสิ้น แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าอาจต้องรออีกหลายวันหลังการเลือกตั้งกว่าจะทราบผลผู้ชนะ
ดังเช่นเมื่อปี 2563 ผลการเลือกตั้งถูกประกาศและทราบว่าชัยชนะเป็นของ โจ ไบเดน ในช่วงเวลา 4 วันหลังการเลือกตั้งในวันที่ 3 พฤศจิกายน เมื่อผลการเลือกตั้งในเพนซิลเวเนียได้รับการยืนยันแล้ว โดยไบเดนได้รับเสียง 20 คะแนนจากคณะผู้เลือกตั้งในรัฐดังกล่าว ทำให้เขาได้รับคะแนนเสียงเกิน 270
ภาพจาก X @ChaseForLiberty
ไทม์ไลน์ต่อจากนี้
- ในสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม 2568 สภาคองเกรสจะประชุมกันเพื่อนับคะแนนเสียงจากผู้เลือกตั้ง จากนั้นจึงประกาศชื่อผู้ที่ได้รับคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี และรองประธานาธิบดี
- วันที่ 20 มกราคม 2568 ประธานาธิบดีคนใหม่จะเข้าพิธีสาบานตนเพื่อดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ณ กรุงวอชิงตัน ดีซี
แคนดิเดตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
- กมลา แฮร์ริส (Kamala Harris) อายุ 60 ปี รองประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ซึ่งได้รับการสนับสนุนให้เป็นตัวแทนจากพรรคเดโมแครต หลังจากที่ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ถอนตัวจากการชิงตำแหน่งประธานาธิบดี เธอยังเป็นอดีตวุฒิสมาชิก อัยการสูงสุดแห่งแคลิฟอร์เนีย อัยการซานฟรานซิสโก และกำลังสร้างประวัติศาสตร์ในฐานะสตรีผิวสีคนแรกที่ได้ลงชิงชัยในการเลือกตั้งประธานาธิบดี ในประวัติศาสตร์ 248 ปี ของอเมริกา
ภาพจาก JEFF KOWALSKY / AFP
- โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) อายุ 78 ปี ตัวแทนพรรครีพับลิกัน ซึ่งจะลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 เขาเป็นนักธุรกิจและดาวเด่นในรายการเรียลลิตี้ทางโทรทัศน์ อีกทั้งยังเป็นประธานาธิบดีคนแรกที่ถูกยื่นถอดถอนถึง 2 ครั้ง รวมถึงถูกตัดสินว่ามีความผิดทางอาญา ทรัมป์ยังเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อจากพรรคใหญ่ที่อายุมากสุดในประวัติศาสตร์ และฤดูร้อนที่ผ่านมาเขารอดชีวิตจากความพยายามลอบสังหาร 2 ครั้ง
ภาพจาก MANDEL NGAN / AFP
- เชส โอลิเวอร์ (Chase Oliver) อายุ 39 ปี ตัวแทนที่ไม่ค่อยมีผู้รู้จักการพรรคลิเบอร์เทเรียน เขาลงชิงที่นั่งวุฒิสภารัฐจอร์เจียในปี 2565 และได้รับคะแนนเสียง 2% ปกติทางพรรคจะได้รับคะแนนสียง 3% หรือน้อยกว่านั้นในการเลือกตั้งระดับประเทศ แต่ตัวผู้สมัครอาจพิสูจน์ว่ามีความสำคัญในรัฐสวิงสเตทได้
ภาพจาก X @ChaseForLiberty
- จิลล์ สไตน์ (Jill Stein) อายุ 74 ปี แพทย์ซึ่งเคยลงสมัครภายใต้พรรคกรีน เมื่อปี 2559 ตอนนี้กลับมาลงสมัครอีกครั้งในปี 2567 เธอเริ่มแคมเปญหาเสียงครั้งนี้โดยกล่าวหาพรรคเดโมแครตว่าผิดคำสัญญาต่อคนทำงาน เยาวชน และสภาพอากาศ ครั้งแล้วครั้งเล่า ขณะที่พรรครีพับลิกันไม่เคยให้คำมั่นสัญญาเช่นนั้นตั้งแต่แรก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Jill Stein
- คอร์เนล เวสต์ (Cornel West) อายุ 71 ปี ผู้สมัครอิสระ เป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมือง นักปรัชญา และนักวิชาการ ที่กำลังพยายามดึงดูดผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีแนวคิดก้าวหน้า และโน้มเอียงไปทางพรรคเดโมแครต
ภาพจาก MATTHEW HATCHER / AFP
ขอบคุณข้อมูลจาก สถานทูตสหรัฐฯและสถานกงสุลในประเทศไทย, BBC, Telegraph, The Guardian