ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ในขณะที่การถึงจุดสุดยอดอาจจะเป็นสิ่งที่สร้างความพึงใจ แต่หากสิ่งนั้นเกิดขึ้นโดยที่เจ้าตัวไม่ได้ต้องการและไม่สามารถคาดเดาได้ มันกลับกลายเป็นความทรมานที่กระทบต่อชีวิตของคนคนหนึ่งอย่างมาก ดังเช่นที่หญิงไม่เผยชื่อรายหนึ่งออกมาตั้งกระทู้บอกเล่าประสบการณ์ของเธอ ผ่านเว็บไซต์ Reddit เมื่อเธอต้องเผชิญกับการถึงจุดสุดยอดขึ้นเองวันละหลายสิบครั้ง และทำให้ต้องรู้สึกโดดเดี่ยวจากสังคมภายนอก
จากรายงานของเว็บไซต์เดลี่เมล เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2567 หญิงวัย 29 ปีเชื่อว่าตัวเองกำลังเผชิญกับโรคถึงจุดสุดยอดพร่ำเพรื่อ (PSAS : Persistent sexual arousal syndrome) อันเป็นผลพวงจากการที่เธอถูกล่วงละเมิดในวัยเด็ก หรือไม่ก็ยาที่ใช้เพื่อรักษาอาการทางจิตแบบอารมณ์แปรปรวน โรคหายากนี้ทำให้เธอเกิดความตื่นตัวทางเพศแม้จะไม่ต้องการ และมีการถึงจุดสุดยอดโดยคาดเดาไม่ได้ มันทำให้เธอไม่สามารถทำงานอะไรได้ และแทบจะไม่กล้าออกจากบ้าน แม้แต่งานศพของแม่แท้ ๆ ก็ไม่สามารถเข้าร่วมได้
แม้หลาย ๆ คนจะมองว่าการถึงจุดสุดยอดเป็นสิ่งที่สร้างความพึงพอใจ แต่เธอยืนยันว่าโรคดังกล่าวไม่ใช่สิ่งที่ใครอยากจะเป็น และมันน่ากังวลมาก
ในขณะที่ PGAD ยังไม่เป็นที่เข้าใจกันดีในสังคม แต่เชื่อว่ามีผู้หญิงราว 1% ที่กำลังเผชิญกับโรคนี้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากลักษณะที่น่าอับอายของโรค ผู้คนจึงมักลังเลที่จะขอความช่วยเหลือ ขณะที่คนรอบข้างก็ยังคงมีมุมมองผิด ๆ ต่อผู้ป่วยโรคดังกล่าว
ไม่เพียงแค่ถึงจุดสุดยอดโดยไม่ต้องการ ผู้ป่วย PGAD ยังอาจรู้สึกเจ็บปวดหรือเสียวแปล๊บบริเวณอวัยวะเพศ รวมถึงมีการหล่อลื่นหรือหดตัวในช่องคลอด อาการที่เกิดขึ้นโดยปราศจากความต้องการของเจ้าตัว ล้วนเป็นสิ่งที่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน จนทำให้หญิงรายนี้กลัวเกินกว่าที่จะออกจากบ้านไปอยู่ใกล้กับคนอื่น ๆ แม้คนอื่นอาจดูไม่รู้ว่าเธอกำลังถึงจุดสุดยอด แต่เธอก็กลัวว่าจะมีคนรู้ เธอจึงเลือกที่จะหลีกเลี่ยงผู้คน
หญิงสาวยอมรับว่า เธอมีแฟนหนุ่มที่เป็นรักทางไกล เขาเองก็ทราบถึงอาการของเธอ แต่จนถึงจุดนี้ความสัมพันธ์กับเขาดูคล้ายจะเป็นเหมือนเพื่อนกันมากกว่าคนรัก เพราะโรคที่เป็น ทำให้เธอหวาดกลัวมากจนแทบออกจากบ้านไม่ได้ เธอไม่ค่อยจะได้อยู่ใกล้ใคร แม้แต่เสื้อผ้ากับของชำก็เลือกจะสั่งให้มาส่งที่บ้าน การนัดหมายส่วนมากของเธอจะทำผ่านระบบทางไกล ตอนนี้เธอไม่ได้ทำงานอะไร และใช้ชีวิตอยู่คนเดียว
เธอยังเล่าว่า การถึงจุดสุดยอดของเธอไม่ได้เกิดขึ้นแบบทันทีทันใด มันค่อย ๆ เกิดขึ้นอย่างช้า ๆ แต่ก็ใช่ว่าทุกครั้งจะลงเอยด้วยการถึงจุดสุดยอดเสมอไป เธอจึงไม่มีทางรู้ได้อย่างแท้จริง ว่าตัวเองกำลังจะถึงจุดสุดยอดหรือไม่ มันเป็นความพึงพอใจที่ลงเอยด้วยความเจ็บปวด และทำให้เธอคลื่นไส้ ซึ่งอาการคลื่นไส้นี้ทำให้เธอหงุดหงิดยิ่งกว่าความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นเสียอีก
แม้การถึงจุดสุดยอดอาจไม่ลงเอยด้วยความเจ็บปวดเสมอไป เธอยืนยันว่ามันยังมากเกินกว่าจะบอกว่าเป็นสิ่งดี ๆ
เธอยังตั้งข้อสังเกตว่า แม้อาการส่วนใหญ่จะคาดเดาไม่ได้ แต่ในอดีตเสียงดัง ๆ ก็เคยเป็นสิ่งกระตุ้นให้เธอถึงจุดสุดยอดมาแล้ว โดยในจุดหนึ่งมันเคยเกิดขึ้นตอนที่รถมอเตอร์ไซค์ซิ่งแข่งกันเสียงดัง ทั้งที่เธออาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ที่สูงขึ้นมาจากพื้นหลายชั้น
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ในวันที่โอเคหน่อย เธอจะถึงจุดสุดยอดราว 3-5 ครั้ง
แต่ในวันที่แย่ ๆ จำนวนอาจเพิ่มไปสูงถึงวันละ 25 ครั้ง
โดยจำนวนครั้งที่เธอเคยถึงจุดสุดยอดมากที่สุดใน 1 วัน ก็คือ 50 ครั้ง
มันมักเกิดขึ้นในตอนเช้าหรือตอนกลางคืนที่เธอพยายามจะนอนหลับ แม้แต่การลุกขึ้นนั่งกะทันหันก็ทำให้เกิดแนวโน้มจะมีอาการมากขึ้น เนื่องจากมีแรงกดที่อวัยวะเพศ
เมื่อมีคนถามว่าเธอจะซ่อนอาการนั้นได้อย่างไร หญิงสาวชี้ว่าความเจ็บปวดในขณะนั้น ทำให้เธอดูเหมือนคนที่หนาวสั่นมาก ๆ เท่านั้น อย่างไรก็ตาม อีกหนึ่งสิ่งที่เลวร้ายคือความเข้าใจผิดของคนอื่น ๆ ที่เชื่อว่าเธอเกิดอาการนี้เนื่องจากความคิดลามกผิดเพี้ยน หรือมองว่าเธออาจเป็นอันตรายต่อเด็ก
"มีบางคนถามฉันว่า ฉันสามารถอยู่ใกล้ ๆ เด็กได้หรือไม่ นั่นอาจเป็นสิ่งเลวร้ายที่สุดที่ฉันกลัวจะถูกใครถาม เพราะพวกเขาคงตีความอาการป่วยของฉันเป็นสิ่งที่เลวร้ายกว่านั้นมาก ๆ"
อย่างไรก็ตาม เมื่อได้อยู่ในกลุ่มที่สนับสนุนผู้ป่วย PGAD และได้รับฟังเรื่องเกี่ยวกับการฟื้นฟูอาการบางเรื่อง ก็ทำให้เธอมีความหวังว่าสักวันจะไม่ต้องหลบซ่อนตัวเองอยู่เสมอไป และยังหวังว่าตัวเองจะได้พบกับผู้เชี่ยวชาญและนักบำบัด เพื่อรับมือกับสภาพความเครียดและความซึมเศร้าที่เกิดขึ้นด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก Daily Mail