มนุษย์ลุงชาวจีนฉุน ไม่มีที่นั่งในรถไฟใต้ดิน ตรงเข้าไปกระชากคนท้อง บังคับลุกให้ตัวเองนั่ง ผดส. อึ้งต้องรีบห้าม หวั่นคนท้องเป็นอันตราย
ภาพจาก : ETtoday
วันที่ 23 ตุลาคม 2567 เว็บไซต์ ETtoday มีรายงานกรณีวิจารณ์เดือดบนโลกออนไลน์ของจีน เมื่อชายสูงวัยรายหนึ่งแสดงท่าทีคุกคามและใช้กำลังกระชากตัวหญิงตั้งครรภ์ เพราะต้องการให้เธอสละเก้าอี้ให้เขานั่งขณะอยู่ในรถไฟใต้ดิน การกระทำที่อาจเป็นอันตรายต่อฝ่ายหญิงนั้นทำให้ผู้โดยสารคนอื่น ๆ ต้องรีบเข้ามาห้าม และช่วยกันดึงตัวชายสูงวัยรายดังกล่าวออกไปก่อนสถานการณ์จะบานปลาย
รายงานเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ที่ผ่านมา เวลา 07.49 น. ในรถไฟใต้ดินที่เมืองหนานจิง มณฑลเจียงซู ประเทศจีน เนื่องจากเป็นช่วงเวลาเร่งด่วนที่มีผู้ใช้บริการแออัด จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะไม่เหลือที่นั่งว่างในขบวนรถไฟใต้ดิน แต่แทนที่ชายสูงวัยรายหนึ่งจะยืนรออย่างอดทน หรือเดินเข้าไปขอที่นั่งอย่างสุภาพจากผู้โดยสารคนอื่น เขากลับเลือกที่จะบีบบังคับให้ผู้หญิงตั้งครรภ์ที่กำลังนั่งอยู่สละเก้าอี้ของเธอแก่เขา
โดยพบว่าชายซึ่งน่าจะมีอายุราว 60-70 ปีรายนี้ สั่งให้หลานเอาสิ่งของไปวางตรงเท้าของหญิงตั้งครรภ์ เมื่อเห็นว่าเธอยังไม่ยอมลุกให้เขานั่งอีก ชายชราก็เริ่มแสดงพฤติกรรมเกรี้ยวกราด ใช้แรงกระชากฝ่ายหญิงให้ลุกขึ้นมา สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ผู้โดยสารคนอื่นตกใจอย่างมากจนต้องรีบเข้ามาห้ามและกันตัวทั้งคู่ออกจากกัน เพราะกลัวฝ่ายหญิงจะได้รับอันตราย
ภาพจาก : Weibo
ภาพจาก : Weibo
จากคลิปที่ถูกแชร์บนโลกออนไลน์พบว่า ฝ่ายหญิงที่สวมเสื้อคลุมสีน้ำเงินพยายามใช้มือปกป้องท้องของตัวเอง เธอยังบอกว่า "มีเด็กในท้องของฉัน" รวมถึงบอกว่า เขามาเบียดเธอก่อน แต่เธอยังไม่ทันได้พูดอะไรด้วยซ้ำ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลายเป็นประเด็นเดือดที่สังคมพากันวิจารณ์พฤติกรรมของชายสูงวัยว่าเข้าขั้นไร้ศีลธรรม และมองว่าเขากล้าแค่เฉพาะกับหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นบุคคลผู้มีความเปราะบาง นอกจากนี้คนอื่น ๆ ยังมองว่าการสละเก้าอี้ให้นั่งนั้นควรเกิดจากความสมัครใจของอีกฝ่าย ไม่ควรที่จะมายื้อแย่งเอาแบบนี้
ภาพจาก : Weibo
ภาพจาก : Weibo
ภาพจาก : Weibo
ขณะที่คอมเมนต์อื่น ๆ จากชาวเน็ต เช่น
"คุณมีแรงพอที่จะกระชากคนอื่น แต่ยังต้องการให้คนอื่นลุกให้นั่ง ?"
"ดูเหมือนจะมีเหตุผลที่เขากล้ารังแกแค่กับหญิงตั้งครรภ์"
"ก็แค่คนเลวที่แก่ตัว"
"ไม่ใช่แค่เรื่องผิดศีลธรรมแล้ว จะทำยังไงถ้าเกิดอุบัติเหตุกับลูกของเธอ"
ขอบคุณข้อมูลจาก : ETtoday