ชายแต่งงานมา 3 ปี แต่ยังไม่มีลูก เข้าไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ก่อนพบความจริงช็อก ปัญหาไม่ใช่เรื่องมีบุตรยาก แต่เขาไม่มีอัณฑะ แถมเจอมดลูกแทน
วันที่ 21 ตุลาคม 2567 เว็บไซต์ Sinchew รายงานว่า ชายคนหนึ่งในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน แต่งงานมานาน 3 ปีแล้ว แต่ภรรยาก็ยังไม่ตั้งครรภ์สักที เขาจึงไปปรึกษาปัญหาการมีบุตรยากหลังแต่งงานที่โรงพยาบาล พร้อมรับการตรวจร่างกาย ไม่คาดคิดว่าตอนนั้นจะบังเอิญได้ค้นพบว่าตัวเองนั้นไม่มีอัณฑะ แต่กลับมีมดลูกแทน เป็นความลับของร่างกายที่เปลี่ยนแปลงสภาพทางเพศที่ตนเองรับรู้มาตลอดอย่างสิ้นเชิง
กล่าวคือเพศที่แท้จริงของสามีรายนี้ คือเพศหญิง แต่เนื่องจากความผิดปกติของพัฒนาการระบบอวัยวะเพศที่เกิดขึ้น ทำให้อวัยวะเพศที่เห็นภายนอกไม่สามารถบ่งชี้ถึงเพศที่แท้จริงได้ จนเกิดความเข้าใจผิดว่าเขาเป็นผู้ชายมาตั้งแต่แรก แต่ในขณะที่เขามีอวัยวะเพศภายนอกคล้ายกับของผู้ชาย อวัยวะสืบพันธุ์ภายในยังเป็นของผู้หญิง
ผู้ป่วยไม่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้ตั้งแต่เนิ่น ๆ จนเกิดเป็นภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก อย่างไรก็ตาม จากนี้ผู้ป่วยยังต้องใช้ชีวิตต่อไปในฐานะผู้ชาย เขาจึงต้องรับการรักษาอีกหลายครั้งภายใต้คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงเข้ารับการผ่าตัดอวัยวะเพศที่โรงพยาบาลอีกแห่งเพื่อทำให้อวัยวะเพศภายนอกกลายเป็นอวัยวะเพศชายโดยสมบูรณ์ รวมถึงต้องใช้ยาเพื่อระงับการหลั่งแอนโดรเจนจากต่อมหมวกไตที่มากเกินไป ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญที่โรงพยาบาลเด็กเซี่ยงไฮ้
ด้าน ศ.หลี่ปิน หัวหน้าผู้เชี่ยวชาญจากแผนกต่อมไร้ท่อของโรงพยาบาลเด็กเซี่ยงไฮ้ ชี้ว่าโรคความผิดปกติของพัฒนาการระบบอวัยวะเพศ (DSD) แม้จะไม่ได้พบโดยทั่วไป แต่ก็ไม่ใช่โรคหายากมาก ถึงอย่างนั้นความเข้าใจ การวินิจฉัย และทรัพยากรในการรักษาโรคดังกล่าวที่จีนค่อนข้างมีจำกัด ผู้ป่วยหลายคนต้องเข้ารับการรักษาจากโรงพยาบาลหลายแห่ง ทำให้กระบวนการในการหาทางรักษาเป็นเรื่องยาก พ่อแม่ที่ลูกเกิดความผิดปกติก็ไม่รู้จะขอความช่วยเหลือจากไหน
ศ.หลี่ปิน ย้ำว่า ผู้ป่วยและครอบครัวที่มีความผิดปกติในพัฒนาการทางเพศนั้น จะใช้ชีวิตลำบากกว่าคนทั่วไป และต้องเผชิญกับความกดดันมหาศาล ไม่เพียงแค่จะเผชิญกับความท้าทายในการรักษาเท่านั้น แต่ยังต้องรับมือกับความเข้าใจผิดทางสังคม และการตัดสินเกี่ยวกับเพศและอัตลักษณ์ของพวกเขาด้วย ดังนั้นสังคมจึงควรให้การยอมรับและสนับสนุนมากขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก Sinchew, CTWANT