ภาพจาก เฟซบุ๊ก Banchamek Gym (Buakaw Banchamek, บัวขาว บัญชาเมฆ)
หากนึกถึง บัวขาว บัญชาเมฆ ภาพจำของเขาในใจของใครหลายคนคงเป็นเรื่องความสามารถในการชกมวยไทยที่คว้าเข็มขัดมามากมาย ขึ้นสังเวียนแต่ละครั้งแทบการันตีชัยชนะ อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน บัวขาวได้เปลี่ยนแนวทางการชกมาชกมวยสากล พร้อมขึ้นสังเวียนชกกับ โคจิ ทานากะ ที่ประเทศญี่ปุ่น
สำหรับผลการแข่งขันล่าสุด (19 ตุลาคม 2567) บัวขาว ลงแข่งรุ่นน้ำหนัก 70 กิโลกรัม ในกติกา 3 ยก ถ้าไม่มีการน็อกก็จะจบลงด้วยการเสมอ ผลปรากฏว่า ไม่มีใครน็อกใครได้สำเร็จ กรรมการจึงให้เสมอกันไป
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Banchamek Gym (Buakaw Banchamek, บัวขาว บัญชาเมฆ)
อย่างไรก็ดี หลายคนอาจจะมีข้อสงสัยว่า ทำไมบัวขาวถึงเปลี่ยนสายการชกจากมวยไทยไปมวยสากล เรื่องนี้ เฟซบุ๊ก Banchamek Gym (Buakaw Banchamek, บัวขาว บัญชาเมฆ) มีการโพสต์ถึงสาเหตุสั้น ๆ ว่า เพราะบัวขาวอยากจะทลาย Comfort Zone ด้วยการชกมวยสากล และที่ผ่านมาก็ชกมวยมาแล้วทั้งหมด 8 กติกา ได้แก่ มวยไทย, มวยสากล, K-1, Kickboxing, Shootboxing, Bare Knuckle, Bare Knuckle - Muaythai, MAS FIGHT
นอกจากนี้ มีการขยายความการตัดสินใจครั้งนี้ของบัวขาว จากเพจ ธีรวัฒน์ ยิ้วยิ้ม ผู้จัดการส่วนตัว ว่า ตลอดการชกที่ผ่านมาของบัวขาว เริ่มมีคนพูดว่าอยากให้บัวขาวหยุดชก เพราะจะได้เป็นตำนาน เก่งเป็นที่สุด เจอแบบนี้มานานกว่า 18 ปี จนตอนนี้บัวขาวอายุ 42 แล้ว
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Banchamek Gym (Buakaw Banchamek, บัวขาว บัญชาเมฆ)
อย่างไรก็ตาม ทางเรามีการตรวจร่างกายบัวขาว ประเมินผลทางร่างกายและจิตวิทยาว่ายังไหวอยู่หรือไม่ ผลก็คือ ยังไหว ดังนั้นการที่บัวขาวยังคงชกมวยอยู่ จึงเป็นเหตุผลด้านวิทยาศาสตร์ ไม่ได้ถึงขั้นไม่ฟังใครแล้วดันทุรังลากสังขารไปต่อยมวย ซึ่งถ้าหากเชื่อและคิดตามคำพูดของคนอื่น ๆ คงเสียโอกาสในชีวิตอีกตั้งเยอะ
พร้อมกันนั้น อยากให้คนที่บอกให้เลิก บอกชื่อคนที่เลิกเร็ว ๆ แล้วเป็นตำนานสักชื่อ จะได้รู้ว่า บัวขาวต้องเดินตามรอยตำนานของใคร
"เมื่อเป็นนักรบแล้ว ต้องรบ บางทีเราไปถามนักรบว่าจะเลิกเป็นนักรบเมื่อไหร่ ไปถามครูอ่าวเมื่อไหร่จะเลิกสอน ไปถามพระนักปฏิบัติ เมื่อไหร่สึกจะเลิกภาวนาสมาธิ น้อยครั้งนะครับในตำนาน รบชนะเยอะละ ยกธงขาวดีกว่าวางอาวุธ จะได้เป็นตำนานดีกว่า"
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Banchamek Gym (Buakaw Banchamek, บัวขาว บัญชาเมฆ)