ดราม่า เด็กหญิงตกบ่อ อึ้งพ่อขวางไม่ให้ช่วย-ต้องถ่ายรูปก่อน จวกเป็นพ่อแบบใด

          เด็กหญิงพลัดตกบ่อ อนิจจาได้แต่มอง พ่อขวางไม่ให้ช่วยจนกว่าจะถ่ายรูปเก็บไว้ คนรุมสวดหนัก นาทีนี้ชีวิตเด็กควรมาก่อน เป็นพ่อแบบใด

          วันที่ 16 กันยายน 2567 เว็บไซต์มิร์เรอร์มีเดีย รายงานว่า เกิดเหตุการณ์เด็กหญิงรายหนึ่งในมณฑลกานซู่ ประเทศจีน ประสบอุบัติเหตุตกลงไปในบ่อน้ำที่แห้งแล้ว อย่างไรก็ตาม ท่าทีสุดประหลาดของคนเป็นพ่อที่ไม่เพียงแค่จะขัดขวางคนอื่น ๆ ที่ต้องการเข้าไปช่วยลูกสาว แถมยืนกรานให้ถ่ายรูปเก็บไว้ก่อน ได้กลายเป็นประเด็นที่ถูกวิจารณ์เดือดในสังคม หลายคนถึงกับตกใจว่านี่เหรอการกระทำของคนเป็นพ่อ

          รายงานเผยว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 กันยายน ที่ผ่านมา เด็กหญิงพลัดตกลงไปในบ่อน้ำ ที่ภายในไม่มีน้ำแล้ว ตอนนั้นมีพลเมืองดีผ่านมาเห็นและรีบยกบันไดไม่มาตรงบ่อ พยายามที่จะลงไปช่วยเด็กด้วยตัวเอง แต่กลับถูกพ่อของเด็กหญิงเข้ามาขัดขวาง ไม่ให้ช่วยลูกสาวและยืนกรานจะให้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูที่เกิดเหตุก่อน ท่าทีนี้ของคนเป็นพ่อทำให้คนแถวนั้นต่างก็งงหนัก เพราะสำหรับพวกเขาการช่วยเด็กคือเรื่องฉุกเฉินที่ต้องรีบทำ


          แต่พ่อให้คำอธิบายว่า ที่ต้องทำเช่นนี้ก็เพราะเขากังวลเรื่องความไม่ชัดเจนของผู้ที่ต้องรับผิดชอบ จึงไม่ยอมให้ใครช่วยเหลือลูกสาวทั้งนั้นจนกว่าตำรวจจะมา กระทั่งสุดท้ายก็มีบางคนพยายามโน้มน้าวพ่อ ให้ใช้วิธีการถ่ายคลิปหรือภาพไว้ก่อนเพื่อเก็บหลักฐาน พ่อจึงยอมเห็นด้วย รีบถ่ายรูปลูกสาวที่ติดอยู่ในบ่อ ก่อนจะยอมให้คนอื่น ๆ ช่วยนำลูกสาวขึ้นมา จากนั้นพ่อจึงพาลูกไปโรงพยาบาลเอง แต่ไม่มีการเปิดเผยว่าเด็กหญิงได้รับบาดเจ็บมากน้อยแค่ไหน



          เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์เดือดบนโลกออนไลน์ ชาวเน็ตส่วนมากไม่พอใจกับท่าทีของพ่อเด็ก ที่ห่วงเรื่องอื่นมากกว่าความปลอดภัยของลูกสาว เป็นพ่อคนแบบใด โดยมีคอมเมนต์เช่น "ดูให้ดี ๆ เถอะว่าเขาเป็นพ่อตัวจริงหรือเปล่า ฉันไม่รู้นะ แต่ฉันคิดว่าเขาเหมือนคนแปลกหน้า" "เขาเป็นพ่อที่แปลกที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็น" และ "รีบช่วยเด็กก่อนสิ" แต่ก็ยังมีหลายคนที่เชื่อว่า เป้าหมายท้ายที่สุดของทั้งพ่อและพลเมืองดี ก็คือการช่วยเด็กอยู่ดี

          ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัยและชนบทของเมืองเทียนสุ่ย ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า แม้โครงสร้างพื้นฐานในที่เกิดเหตุจะไม่ชัดเจน แต่ทางหน่วยงานไม่สนับสนุนพฤติกรรมของพ่อ ที่ขัดขวางความพยายามช่วยเหลือและต้องการให้เรียกตำรวจก่อน แม้ทางหน่วยงานจะเข้าใจความรู้สึกของพ่อเด็ก แต่ขอย้ำว่าควรจะให้เด็กได้รับการช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด แล้วจึงติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบภายหลัง
 

ขอบคุณข้อมูลจาก Mirror Media