ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง โดนรุมแฉหนัก ซ้อลักษณ์ ปุ๊กกี้ ลูกแชร์ เล่าหลายปม อ้างรู้จักผู้ใหญ่ !

          ซ้อลักษณ์ ปุ๊กกี้ และผู้เสียหายลูกแชร์ ออกโรงแฉ ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง หลายปมเดือด ทั้งซื้อขายวุฒิ สอนฮั้วประมูล แอบอ้างคนใหญ่คนโตเบี้ยวเงินแชร์

          จากกรณี ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง คนทำงานสังคมคนดัง ถูก น.ส.วิไลลักษณ์ หรือ ซ้อลักษณ์ ออกมาเปิดเผยว่าถูกประธานสาวมูลนิธิดัง เสนอซื้อขายวุฒิการศึกษา ป.ตรี จากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง พร้อมกันนี้ยังได้แอบอ้างเสนอซื้อขายตำแหน่งทางการเมืองนั้น

อ่านข่าว : งัดแชต ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง ขายวุฒิ ป.ตรี จ่าย 60,000 ฝากทำงานในรัฐบาล ลั่นกลับแน่จริงก็ฟ้องมา

          ล่าสุด (4 กรกฎาคม 2567) ข่าวช่อง 3 รายงานว่า น.ส.วิไลลักษณ์ หรือ ซ้อลักษณ์ ผู้เสียหาย นำหลักฐานการซื้อขายวุฒิการศึกษามามอบให้กับตัวแทนของ มูลนิธิทนายรณรงค์ พร้อมจุดธูปสาบานต่อพ่อปู่พญานาค และสาบานว่าสิ่งที่พูดออกมาเป็นเรื่องจริง หากไม่เป็นความจริง ขอให้มีอันเป็นไป ภายใน 3 วัน 7 วัน

          ซ้อลักษณ์ กล่าวว่า ตนยอมรับว่ามีการซื้อวุฒิการศึกษาจริง จุดเริ่มต้นคือตนมารู้จักกับประธานมูลนิธิคนนี้ ตอนที่อดีตสามีจะมีทำร้ายร่างกาย แล้วตนหวังพึ่งพาเขา ซึ่งตอนนั้นตนไม่มีใครเลยนอกจากเขา ตนไว้ใจเขามาก เขาพูดอะไรเราก็เชื่อหมด บอกว่ามีรู้จักผู้ใหญ่มากมาย สร้างความน่าเชื่อถือ


          ตนโอนเงินไป 4 ครั้ง รวมแล้วกว่า 2 แสนบาท โอนครั้งที่ 1 จำนวน 50,000 บาท, ครั้งที่ 2 จำนวน 50,000 บาท , ครั้งที่ 3 จำนวน 99,500 บาท โอนเข้าบัญชีคุณเกษียณ ซึ่งเราได้ถามเขาว่าบุคคลท่านนี้คือใคร อีกฝ่ายบอกว่า เป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย เราจึงได้หลงเชื่อเขา ส่วนโอนครั้งสุดท้าย โอนไปจำนวน 1,500 บาท และโอนเข้าบัญชีของประธานมูลนิธิ


          ตั้งแต่ที่จ่ายเงิน ตนก็ไม่ได้ไปที่มหาวิทยาลัยหรือเซ็นเอกสาร เพื่อไปสมัครเรียนมหาวิทยาลัยเลย และมาทราบทีหลังช่วงที่มีปัญหาแล้ว ว่าชื่อตัวเองอยู่ในมหาวิทยาลัย ส่วนเรื่องวุฒิการศึกษา ตนรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ในตอนนั้นอีกฝ่ายแอบอ้างผู้ใหญ่เยอะ ก็ทำให้คล้อยตาม ส่วนเรื่องการถูกดำเนินคดีหรือไม่นั้น ก็เคารพขั้นตอนตามกฎหมาย อย่างน้อยการที่ได้ออกมาบอกวันนี้ ก็เป็นเสียงเล็ก ๆ ที่สามารถทำอะไรได้บ้าง และอยากฝากบอกอีกฝ่ายว่า อย่าทำแบบนี้กับใครอีก พร้อมทั้งขอโทษจริง  ๆ

          ทั้งนี้ ยืนยันว่า ที่ออกมาพูดเรื่องนี้ ไม่เกี่ยวกับประเด็นที่คนอื่นซื้อถูกกว่าตน เมื่อตนซื้อแพงก็เลยออกมาพูด ยอมรับว่ามีส่วนที่ทำให้ไม่สบายใจนิดหน่อย แต่ที่ออกมาพูด คือตนมองว่าไม่ถูกต้อง

          ขณะที่ เดลินิวส์ รายงานว่า ปุ๊กกี้ อดีตผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเป็นหนึ่ง และ น.ส.เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหายจากการเล่นแชร์ ร่วมกันแถลงข่าวถึงประธานสาวมูลนิธิดัง โดย ปุ๊กกี้ ยอมรับว่า ตั้งใจเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของมูลนิธิเป็นหนึ่ง เพราะอยากเป็นบุคคลมีชื่อเสียง มีแสง เพื่อต่อยอดทำธุรกิจ แม้จะมีมีผู้ใหญ่คอยเตือนเสมอว่าไม่อยากให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับบุคคลคนนี้ แต่ตอนนั้นยังไม่เชื่อ ซึ่งตนได้นำเงิน 100,000 บาท จัดตั้งมูลนิธิ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา จะมีแต่อีกฝ่ายคนเดียวที่คอยออกหน้า


          สาเหตุที่เลือกออกมา เพราะอีกฝ่ายสอนให้เราทำสิ่งไม่สุจริต คือเสนอให้ ฮั้วประมูล เพราะสามีตนมีคอนเน็คชั่นเกี่ยวกับการรับเหมา คิดว่าหากทำต้องส่งผลกระทบต่อครอบครัว โดยเฉพาะตัวสามี และยังต้องแบ่งสันปันส่วนว่าใครจะได้เปอร์เซ็นต์บ้าง​ ก็ยิ่งทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่หลาย ๆ คนพูดเป็นความจริง จึงพาตัวเองออกมาจากมูลนิธิ

          ส่วนประเด็นการซื้อวุฒิการศึกษา ยอมรับว่าเคยได้ยินจากปากของอีกฝ่าย ตอนที่เขาบอกว่าจะซื้อให้สามี ราคา 150,000 บาท​ และยังทราบว่า เขาได้มีการซื้อขายวุฒิให้บุคคลอื่นอีก ​ซึ่งเรื่องนี้ตนมีคลิปเสียง ระหว่าง ซ้อลักษณ์ และอาจารย์ของมหาวิทยาลัยดังแห่งหนึ่ง ที่พูดถึงการซื้อขายวุฒิปริญญากัน


          พอทวงถามไปก็บ่ายเบี่ยงอ้างว่ากำลังจะลงเล่นการเมืองแล้ว จะได้เงินสนับสนุนกว่า 10 ล้านบาท แล้วจะนำเงินมาคืนให้พร้อมดอกเบี้ย จนผ่านมาหลายปีก็ไม่เคยได้เงินคืน หลังจากนั้นตนพร้อมผู้เสียหายร่วม 10 คน ไปเจรจากับเขาอีกครั้ง ก็บอกให้เอาเลขบัญชีทุกคนมาแล้วจะทยอยคืนเงินให้ แต่พอถึงเวลากลับได้เงินโอนคืนมาแค่คนละ 200-300 บาท ตนจึงเข้าแจ้งความข้อหาฉ้อโกง  เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2567 หลังจากนั้นเรื่องก็เงียบ จึงเกรงว่าเขามีชื่อเสียงรู้จักคนใหญ่คนโต กลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม